ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่ชาวม้งร้องสื่อ ทวงถามความยุติธรรมให้ลูก หลังลูกชายถูกตำรวจจับข้อหามีปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ในครอบครอง ตำรวจได้คุมตัวลูกขายมาที่โรงพัก แต่ระหว่างทางลูกตกรถเสียชีวิต ตำรวจ อ้างว่าผู้ต้องหากระโดดลงรถเอง ตนไม่เชื่อว่าลูกจะคิดสั้นแบบนั้น
นางหมี่ แซ่ลี อายุ 61 ปี และ นายมวล มวลสุขใจ อายุ 63 ปี แม่กับลุงผู้เสียชีวิต ทั้งคู่เป็นชาวม้งบ้านห้วยคุ จังหวัดเชียงราย ออกมาขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ นางหมี่ แซ่ลี แม่ผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 ลูกชายตนชื่อว่า นายพ่า แซ่ลี อายุ 39 ปี ถูกเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวในหมู่บ้านห้วยคุในข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และได้ควบคุมตัวนำไปโรงพัก
โดยลูกชายถูกใส่กุญแจมือนั่งอยู่กระบะหลังรถตำรวจเพียงลำพัง ระหว่างทางลูกชายตกรถลงมาเสียชีวิต โดยตำรวจอ้างว่าลูกตนกระโดดลงจากรถมาเอง เพื่อจะหลบหนี ตนมองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะลูกถูกใส่กุญแจมืออยู่ และช่วงที่เกิดเหตุเป็นทางลงเขา รถมีความเร็วมาก ลูกคงไม่ตัดสินใจแบบนั้น และมาทราบอีกเรื่องว่า ช่วงที่เกิดเหตุรถกระบะตำรวจขับหลบหนีไปก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาเอาศพลูกตนใส่รถกระบะไป โดยไม่รอแพทย์จากโรงพยาบาล หรือ รถกู้ชีพ
ตนมองว่าเมื่อลูกตนเองอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจไปแล้ว ตำรวจต้องรับผิดชอบชีวิตของลูกตน จะมาปฎิเสธและอ้างว่าคนตายได้พยายามกระโดดลงรถลงมาเองไม่ได้ ถ้าหากลูกตนถูกจับกุมแล้วไปตายในโรงพักก็ยังไม่ค่อยสงสัย แต่นี่มาตายอยู่ข้างถนนนั่นมันไม่ใช่ แล้ว แล้วมาอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไม่ผิดอีก ตนมีความรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนป่า คนดอย อย่างพวกเรา
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุและมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ระหว่างที่ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากที่ทำงาน บริเวณทางลงเขาห่างจากชุมชนประมาณ 1 กิโลเมตร เขตพื้นที่หมู่บ้านสิลาแดง หมู่ 16 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ได้มีรถกระบะคันหนึ่งได้ขับแซงรถตนไป จู่ ๆ ก็มีคนลอยเคว้งอยู่บนอากาศ หมุนอยู่ 3 ตลบ และตกลงมาหายใจรวยริน และสิ้นใจตายต่อหน้า
ส่วนรถกระบะได้ขับหนีไป ตนจึงได้ตะโกนเรียกคนที่กำลังทำไร่ผักอยู่ใกล้เคียง เพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมกับโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้ตำรวจช่วยสกัดจับรถกระบะคันดังกล่าว จากนั้นได้โทรศัพท์เรียกรถพยาบาล ช่วงระหว่างรอรถพยาบาลมารับผู้เสียชีวิต ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ได้มีรถกระบะคัน 1 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมา และได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงแก่น จำนวน 3 นาย แต่งกายอยู่ในชุดนอกเครื่องแบบ เมื่อมาถึงได้ขอให้ผู้นำชุมชนและชุด ชรบ. หมู่บ้านจำนวนกว่า 10 คน ที่มาให้การช่วยเหลือ ช่วยกันหามร่างของคนตายขึ้นใส่บนรถกระบะ โดยอ้างว่าจะนำส่งโรงพยาบาลเวียงแก่น เอง
ล่าสุด ทางผู้สื่อข่าวได้พาแม่และญาติผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เวียงแก่น เพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดี หลังมีการพูดคุยอยู่สักพักหนึ่ง ทางด้านตำรวจได้ชี้แจงว่า หลังจากได้พูดคุยกับทางญาติ ตอนนี้ทางญาติเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว และญาติก็ไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใดแล้ว เรื่องนี้จบลงด้วยดี
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ โทรศัพท์สอบถามไปยัง พลตำรวจตรี มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวว่า จากเหตุการดังกล่าว ตนได้รับรายงานแล้ว ตนมองว่าเป็นการปฏิบัติการที่หละหลวมของเจ้าหน้าที่ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น สำหรับคดีนี้ถึงแม้ว่าทางญาติจะไม่ติดใจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกตั้งคณะกรรมสอบสวน หากพบว่าผิดจริง ก็จะดำเนินการทางวินัยทันที
