เคสนอภ. กร่าง อธ.ปกครอง สั่งเข้ม ขรก.ห้ามแสดงพฤติกรรมเสื่อมเสีย

เคสนอภ. กร่าง อธ.ปกครอง สั่งเข้ม ขรก.ห้ามแสดงพฤติกรรมเสื่อมเสีย

View icon 101
วันที่ 12 เม.ย. 2567 | 17.03 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
นอภ. กร่าง อธิบดีกรมการปกครอง สั่งเข้ม ขรก.ห้ามดื่มขณะปฏิบัติหน้าที่ ห้ามแสดงพฤติกรรมเสื่อมเสีย จังหวัดส่งหนังสือด่วนแจงเหตุการณ์ถึงปลัดมหาดไทย แจง นอภ. ดื่มไม่ได้ขับ พูดเสียงดัง ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกับตำรวจ 

ผลพวงจากเคสนายอำเภอกร่างผลักอกตำรวจ ไม่พอใจที่ญาติเมาขับถูกจับเป่า วันนี้ (12 เม.ย.67) นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการด่วนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการฝ่ายปกครอง ห้ามแสดงพฤติกรรมอันนำไปสู่การเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อตำแหน่งหน้าที่ของตน ทั้งในฐานะข้าราชการและบุคลากรของรัฐ รวมทั้งในฐานะพลเมืองที่ดี พร้อมกำชับ“ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ในขณะปฏิบัติหน้าที่” เน้นย้ำ “ครองตน ครองคน ครองงาน” ให้เหมาะสม

ทางด้าน นายพน พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ทำหนังสือชี้แจงด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยข้อความตอนหนึ่ง ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย.67 นายอำเภอยางชุมน้อย ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวโดยมีญาติเป็นคนขับรถยนต์ให้ เพื่อไปร่วมงานบวชญาติที่อำเภอเมืองอำนาจเจริญ เมื่อร่วมงานบวชเสร็จ ขณะจะเดินทางกลับจังหวัดศรีสะเกษ เวลาประมาณ 14.14 น. นายอำเภอยางชุมน้อย ได้รับแจ้งจากนายวัชระ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นญาติอีกคนที่ไปร่วมงานบวชที่อำเภอเมืองอำนาจเจริญด้วยกัน แต่ได้ขับรถยนต์ออกมาจากงานบวชก่อน ว่าถูกตำรวจตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ผลการตรวจมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 121 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายวัชระ จึงขอให้นายอำเภอยางชุมน้อย ได้มาเจรจาพูดคุยกับตำรวจ และเมื่อนายอำเภอยางชุมน้อย ได้เดินทางมาถึงจุดตรวจ ซึ่งมีญาติพี่น้อง ที่ไปร่วมงานบวชด้วยกันเป็นคนขับรถยนต์ให้ ได้ลงจากรถไปพูดคุยกับตำรวจ แต่ด้วยบุคลิกของนายอำเภอยางชุมน้อย ที่มักจะเป็นคนพูดจาเสียงดัง จึงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอำเภอยางชุมน้อย เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้ขับขี่รถยนต์

ภายหลังจากนายอำเภอยางชุมน้อย ได้มีการพูดคุยกับตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับนายวัชระ โดยกล่าวหาว่า “ขับรถในขณะเมาสุรา” ซึ่งนายวัชระรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองอำนาจเจริญ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้นำตัวส่งฟ้องต่อศาลแขวงอำนาจเจริญ 

ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยปลัดกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และแต่งตั้งคณะการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร พร้อมจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ฝากไปถึงข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยทุกคนของจังหวัดศรีสะเกษว่านโยบายของผู้บังคับบัญชาและระเบียบวินัยข้าราชการจะต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง