สาวออฟฟิศ ปีนข้ามระเบียง ใช้มีดคัตเตอร์ขู่อาม่า ชิงสร้อยทอง สารภาพติดพนันออนไลน์

สาวออฟฟิศ ปีนข้ามระเบียง ใช้มีดคัตเตอร์ขู่อาม่า ชิงสร้อยทอง สารภาพติดพนันออนไลน์

View icon 371
วันที่ 17 เม.ย. 2567 | 18.32 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สาวออฟฟิศติดพนัน ปีนข้ามระเบียง ใช้มีดคัตเตอร์ขู่อาม่าข้างบ้าน ชิงสร้อยทอง-ล็อกเกต หนัก 2 บาท หลังก่อเหตุทำทีเข้าไปช่วยเหลือ ตร.เช็กกล้องวงจรปิด ก่อนรวบตัวดำเนินคดี

วันนี้ (17 เม.ย.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายเป็นหญิงเข้ามาก่อเหตุขโมยสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น ล็อกเกตทองคำ 1 อัน เหตุเกิดในหมู่หรูแห่งหนึ่ง ซอยประชาอุทิศ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น มีนางชุลี อายุ 83 ปี ผู้เสียหาย เป็นแม่เจ้าของบ้าน เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะนอนหลับอยู่ที่โซฟาชั้นล่าง มีคนร้ายเป็นผู้หญิง สวมเสื้อคลุมสีดำแบบมีฮู๊ด ใช้มีดคัตเตอร์ขู่บังคับให้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท และล็อกเกตรูปของแม่ใส่อยู่ที่คอ ด้วยความกลัวอันตรายจึงถอดให้คนร้ายไป หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์แจ้งให้ลูกสาวทราบ และโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในหมู่บ้านอย่างแน่นอน เพราะคนจากภายนอกหมู่บ้านไม่สามารถเข้ามาก่อเหตุได้ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเป็นหญิงกำลังยืนคุยกับอาม่า ก่อนจะออกจากที่เกิดเหตุมายังบ้านหลังที่อยู่ติดกัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบ้านที่อยู่ติดกับบ้านอาม่า ซึ่งใช้เป็นออฟฟิศ พบว่าคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุคือ น.ส.มนัสนันท์ อายุ 23 ปี เป็นพนักงานออฟฟิศดังกล่าว กำลังปีนหน้าต่างออกไปที่ระเบียง เพื่อปีนข้ามไปก่อเหตุที่บ้านอาม่า ก่อนจะปีนกลับเข้ามาที่ออฟฟิศตามทางเดิม

จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.มนัสนันท์ ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุจริง โดยตนเองทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศ ที่อยู่ติดกับบ้านอาม่า และได้ปีนระเบียงหลังบ้านไปยังบ้านเกิดเหตุ ก่อนลงไปชั้นล่างใช้มีดคัตเตอร์ข่มขู่ให้อาม่าถอดสร้อยคอทองคำ หลังก่อเหตุได้นำสร้อยไปขายได้เงินมา 65,000 บาท โดยนำเงินและมีดคัตเตอร์ ไปซุกซ่อนภายในห้องชั้น 2 จนมาถูกตำรวจจับกุมได้ ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำ เพราะตนติดเล่นการพนันออนไลน์บาคารา และกู้ยืมเงินจากคนรู้จักจนเป็นหนี้นอกระบบ จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว โดยหลังลงมือได้ยินเสียงอาม่าร้องให้ช่วย จึงทำทีวิ่งออกจากออฟฟิศไปเพื่อช่วยเหลือ

ต่อมาตำรวจได้นำตัว น.ส.มนัสนันท์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดย น.ส.มนัสนันท์ ได้กราบขอโทษอาม่าที่มาก่อเหตุ ซึ่งอาม่าผู้เสียหายได้กล่าวให้อภัย แต่ทางคดีก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้อาวุธมีด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินคดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง