ภูมิธรรม ลงพื้นที่วัดเทียนถวาย ปทุมธานี เตรียมทำโป๊ะเทียบเรือ สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น ชูใช้เสน่ห์พื้นถิ่นพัฒนาปริมณฑล

ภูมิธรรม ลงพื้นที่วัดเทียนถวาย ปทุมธานี เตรียมทำโป๊ะเทียบเรือ สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น ชูใช้เสน่ห์พื้นถิ่นพัฒนาปริมณฑล

View icon 733
วันที่ 20 เม.ย. 2567 | 19.05 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่วัดเทียนถวาย ปทุมธานี เตรียมทำโป๊ะเทียบเรือ สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น ชูใช้เสน่ห์พื้นถิ่นพัฒนาปริมณฑล

วันที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 17.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเหมาะสมของโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจทางน้ำโป๊ะเทียบเรือบริเวณวัดเทียนถวาย อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยมีพระมหาสมเกียรติ รวิวัณโณ เจ้าอาวาสวัดเทียนถวาย นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุลกุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นางทัศนีย์ ผลชานิโก ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 2  นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ร่วมด้วย

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองรับผิดชอบเขตตรวจราชการ 3 เขต คือ  อีสานตอนบน อีสานใต้ และปริมณฑลรอบกรุงเทพมหานคร ซึ่งจังหวัดปริมณฑลมีเสน่ห์คล้ายกรุงเทพฯ มีทั้งความเป็นเมืองและชนบทซึ่งน่าสนใจว่าจะพัฒนาอย่างไร การพัฒนาพื้นที่ต้องมีความพิเศษ ศักยภาพของ 4 จังหวัดนี้ (นครปฐม สมุทรปราการ นนทบุรีและปทุมธานี) มีศักยภาพในตัวเอง เป็นเมืองด่านที่จะออกสู่ต่างจังหวัด จะสร้างเสน่ห์ได้อย่างไร

สำหรับที่นี่ท่านอดีตผู้แทนราษฎร ข้าราชการท้องถิ่น ประชาชน ต้องช่วยกันคิดว่าเราจะไปทางไหน ถ้าชัดเจนร่วมกันจะมีพลัง ซึ่งตนได้ให้นโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้วที่สำคัญคือ เรื่องน้ำท่วมที่เป็นปัญหาหลักเพราะมีปัญหาทุกปี รวมถึงน้ำแล้งในเขตชานเมือง ต้องร่วมกันแก้ปัญหา รัฐบาลนี้จึงอยากช่วยแก้ไขทั้งระบบจึงจะสามารถแก้ปัญหาได้

พื้นที่นี้ขอโป๊ะเทียบเรือเพื่อทำประโยชน์ให้พื้นที่ ขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดที่ช่วยประสาน อนาคตจะมีการสร้างตลาดต้องชม สร้างจุดขายสร้างรายได้ให้พี่น้องในพื้นที่ต่อไป โดยสถานที่วัดเทียนถวายเป็นฐานของพุทธศาสนาทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีกิจกรรมที่ช่วยทะนุบำรุงศาสนาได้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งแนวทางนโยบายของจังหวัดปทุมธานีมุ่งเน้นในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวทางน้ำและการบริหารจัดการน้ำ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นและใกล้เคียงให้มีอาชีพสร้างรายได้ ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจฐานรากให้แก่ประชาชนทั้งด้านอาหาร ประเพณีและการท่องเที่ยว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง