แม่ร้องเพจดัง ม.3 กระโดดน้ำทะเล หัวกระแทกทรายดับ ผอ.โรงเรียนชี้แจงช่วยเต็มที่แล้ว เห็นข่าวแล้วเสียใจมาก เงินช่วยเหลือ 5 หมื่นบาทมอบให้ตา-ยาย ซึ่งเป็นผู้ปกครองเด็ก มีเงินประกันอีก 1 แสน ขณะที่น้าของเด็ก นร. เห็นเหตุการณ์ยืนยันเป็นอุบัติเหตุ
ความคืบหน้ากรณีแม่ร้องเพจดังลูกชาย ม.3 เสียชีวิตขณะไปร่วมปัจฉิมนิเทศที่โรงเรียนจัดขึ้นที่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี แล้วเกิดอุบัติเหตุขณะทำกิจกรรมพุ่งลงทะเลแต่หัวกระแทกพื้นทรายเสียชีวิต แต่ทางโรงเรียนกลับไม่ช่วยเหลือเยียวยาเท่าที่ควร ล่าสุด นายก้องเกียรติ มากสมบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกสถานที่ โดยการพาเด็กนักเรียนเดินทางไปทัศนศึกษาที่จังหวัดชลบุรี ไม่ใช่ปัจฉิมนิเทศตามที่เป็นข่าว เพราะการจัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศทางโรงเรียนจัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนงานศพของนายรัชวัต หรือน้องดริฟ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ที่เสียชีวิต ตนและคณะครู ช่วยกันจัดงานให้อย่างสมเกียรติ
ผอ.โรงเรียน ชี้แจงด้วยว่า การจัดงานศพของน้องดริฟ ตนคอยดูแลตลอดงานทั้งอาหารเครื่องดื่ม เนื่องจากเด็กที่เสียชีวิตอาศัยอยู่กับตาและยาย ส่วนค่าใช้จ่ายทางโรงเรียนช่วยเหลือ 1 หมื่นบาท กองทุนหมู่บ้าน 1 หมื่นบาท เพื่อน ๆ ของตนช่วยเหลือ 1 หมื่น เขตพื้นที่การศึกษา ช่วย 5 พันบาท ทหารเรือที่ชลบุรีช่วยมาอีก 5 พันบาท และเงินจากผู้มาร่วมงานบุญ 1 หมื่นบาท รวมแล้ว 5 หมื่นบาท ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ส่วนเงินประกันอุบัติเหตุจำนวน 1แสนบาท ทางโรงเรียนกำลังเดินเรื่องให้ ซึ่งเงินจำนวนนี้ตาและยายขอเป็นผู้รับเอง เพราะตากับยายเป็นคนเลี้ยงดูและดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด
“ยืนยันว่า ไม่เคยทอดทิ้ง ดูแลมาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ และดูแลมาตลอด พอมาเห็นข่าวก็รู้สึกเสียใจมาก สิ่งที่ทำไปเพราะความรักเด็ก ไม่ใช่เพราะความผิด” ผอ.โรงเรียน กล่าวยืนยัน
นางสายรุณ อายุ 53 ปี น้าของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากไปทัศนศึกษากับทางโรงเรียน เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของหลานชายเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด เพราะขณะเกิดเหตุทั้งเด็กและครูก็ลงเล่นน้ำ ครูก็ดูแลใกล้ชิด ส่วนตนนั่งดูอยู่ด้านบน เห็นหลานชายกระโดดน้ำอย่างสนุกโดยการพุ่งตัวลงน้ำ แต่เป็นจังหวะที่คลื่นซัดน้ำลงทะเลทำให้ศรีษะกระแทกกับทราย หลังเกิดเหตุได้ยินเสียงเด็กตะโกนว่าดริฟหัวแตก ตนจึงวิ่งไปดูหลาน และมีคนมาช่วยปั๊มหัวใจก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล
นางทองม้วน อายุ 67 ปี ยายของน้องดริฟ เล่าว่า เลี้ยงหลานมาตั้งแต่ยังเล็ก เพราะพ่อแม่ของหลานแยกทางกัน ต่างคนก็ไปมีครอบครัวใหม่ เป็นหลานคนเดียวที่คอยช่วยยาย เป็นคนพายายไปหาหมอ ถ้าหลานยังอยู่วันพรุ่งนี้หลานต้องพายายไปหาหมอ แต่ตอนนี้ไม่มีใครพายายไปหาหมอแล้ว
สำหรับนายรัชวัต หรือน้องดริฟ ผู้เสียชีวิต เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.90 ซึ่งถือว่าเป็นเด็กนักเรียนเรียนดี และใฝ่ฝันอยากรับราชการ
กรณีดังกล่าว แม่ของน้องดริฟเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่าการเสียชีวิตของลูกชายมีข้อสงสัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม สงสัยว่าลูกถูกลงโทษให้ทำท่าสมอบก ครอบครัวต้องกู้เงินมาจัดงานศพ เป็นเงินจำนวนหลายหมื่นบาท แต่เมื่อทวงถามความรับผิดชอบจากทางโรงเรียน กลับได้รับเงินช่วยเหลือซึ่งได้มาจากการเรี่ยไร จำนวนกว่า 10,000 บาท โดยเพจสายไหมต้องรอดจะพาไปแจ้งความดำเนินคดี
