บิ๊กโจ๊ก ยื่นป.ป.ช.ฟัน เศรษฐา ผิด ม.157 สกัดนั่ง ผบ.ตร.

View icon 13
วันที่ 23 เม.ย. 2567 | 06.23 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ตอนนี้จะเรียก "โจ๊กกามิกาเซ่" "โจ๊กระเบิดเวลา" หรือโจ๊กอะไรก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ ๆ น่าจะไม่ใช่ "โจ๊กหวานเจี๊ยบ" อีกแล้ว เมื่อวานปรากฏตัวต่อหน้าสื่อครั้งแรกแบบเดือด ๆ หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน จากข้อกล่าวหาเอี่ยวฟอกเงินเว็บฯ พนันออนไลน์ ด้วยการบุกยื่นเรื่องถึง ป.ป.ช. ไล่บี้แหลกตั้งแต่ นายกฯ ลงมาถึงคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมด ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ และไม่มีอำนาจ พร้อมขู่ตอนนี้มีเวลาแล้ว รอตั้งรับกันให้ดีก็แล้วกัน

บิ๊กโจ๊ก ยื่นป.ป.ช.ฟัน เศรษฐา ผิดม.157 สกัดนั่ง ผบ.ตร.
นี่คือบรรยากาศบางช่วงบางตอนที่ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษนายก ฯ และคณะพนักงานสอบสวนที่ ป.ป.ช. โดยในส่วนการกล่าวหานายก ฯ มีเรื่องเก่าที่นายก ฯ เคยแต่งตั้ง "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เคยยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ไต่สวนเอาผิดไว้แล้ว อีกเรื่องคือกรณีนายก ฯ ส่งตัวกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่ยังสอบสวนไม่เสร็จ จนนำมาสู่การถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ส่วนที่ร้องทุกข์การสอบสวนเป็นไปโดยมิชอบ และกล่าวหาหัวหน้าพนักงานสอบสวน คณะพนักงานสอบสวนกรณีปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีอำนาจนั้น อธิบายโดยสรุปก็คือ เนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนไม่ยอมส่งคดีที่ตนถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวพันกับการฟอกเงินเว็บ ฯ พนัน BNK Master ไปให้ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นคดีที่มีเส้นเงินเดียวกันกับคดีมินนี่ที่อยู่ใน ป.ป.ช. แล้ว จะนำมาตั้งคดีใหม่แยกไม่ได้ พนักงานสอบสวนทำได้แค่เป็นคนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น แล้วต้องส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน แต่กลับไม่ยอมส่ง เก็บไว้ 4 เดือน ทั้งที่ไม่มีอำนาจทำคดีนี้ จนกระทั่งตนถูกสั่งให้ออกจากราชการไปแล้วในวันที่ 18 เมษายน หลังจากนั้นวันเดียว 19 เมษายน ก็ส่งไปยัง ป.ป.ช. ทันที เหตุที่ยื้อไว้ไม่ยอมส่ง เพราะมีกฎหมายกำหนดไว้ ถ้าคดีอยู่ใน ป.ป.ช. จะถือว่า "เป็นผู้บริสุทธิ์" ทันที จนกว่าจะถูกชี้มูลความผิด ไม่ถือเป็น "ผู้ถูกกล่าวหา" เหมือนเวลาคดีอยู่ในมือพนักงานสอบสวน หมายความว่าถ้าเรื่องถึง ป.ป.ช. ก็จะไม่สามารถสั่งให้ตนออกจากราชการได้ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นอาญาเถื่อน มีลักษณะทำเป็นกระบวนการ แบ่งงานกันทำเพื่อกลั่นแกล้งไม่ให้ตนได้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

อีกหนึ่งประเด็นร้อนที่เหมือนเป็นการเขี่ยลูกออกมาจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เช่นกัน ก็คือกรณีเอกสารหลุดเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นเอกสารที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยื่นคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ป.ป.ช. บางคน ชื่อย่อ ส. และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งความร้อนแรงของมันเนื่องมาจากมีเนื้อหาส่วนหนึ่งพาดพิงไปถึงเจ้าของนาฬิกาเพื่อน หรือก็คือ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยสรุปของเนื้อหาอ้างว่า ก่อนที่ นาย ส. จะได้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. ได้ขอให้ บิ๊กโจ๊ก พาเข้าพบ บิ๊กป้อม เพื่อให้การสนับสนุน จนได้รับเลือกเป็นกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อปี 2563 แต่ต่อมา นาย ส. ถูกร้องเรียนจากที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. ที่ บิ๊กโจ๊ก เคยพาไปแนะนำให้รู้จัก จึงให้ บิ๊กโจ๊ก ช่วยไปหยุดการร้องเรียนนั้น แต่ไม่สำเร็จ ทำให้โกรธแค้น พร้อมขู่ว่า "พี่โจ๊ก อย่ามีเรื่องมาพึ่งผมบ้างก็แล้วกัน" รวมทั้งคำขู่ต่อมาอีกประโยคว่า "อย่าให้มีเรื่องกล่าวหาพี่มาถึงผมนะ ผมฟันไม่เลี้ยง" อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวที่ ป.ป.ช. บิ๊กโจ๊ก ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังเอกสารหลุดครั้งนี้

หลัง บิ๊กโจ๊ก ออกมายืนข้อกล่าวหาถึง ป.ป.ช. ในครั้งนี้ ก็มีท่าทีออกมาจากฝั่งท่านนายกรัฐมนตรี เช่นกัน ไปฟังกันหน่อยว่าท่านมีคำชี้แจงในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

เลขาฯ ป.ป.ช. ยันเอกสาร บิ๊กโจ๊ก ไม่ได้หลุดจาก ป.ป.ช.
สำหรับกรณีเอกสารหลุด มีคำชี้แจงจาก นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ว่า ได้รับหนังสือฉบับนี้มาจริงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีเรื่องคัดค้านเรื่องใดบ้าง และดูข้อกฎหมาย ส่วนจะสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช. คนดังกล่าวหรือไม่ ต้องรับฟังเหตุผลทั้งสองฝ่าย ตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่มีการไต่สวน และยังไม่ได้พูดคุยกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. รายดังกล่าว ส่วนกรณีเอกสารที่หลุดออกมาได้อย่างไรนั้น เลขา ฯ ป.ป.ช. ระบุว่า "ตัวเขาเอาไปให้ผู้สื่อข่าวเองหรือเปล่า ไม่ใช่ ป.ป.ช. แน่ ๆ ผมไม่รู้นะอันนี้"

บิ๊กป้อม ไม่ฟ้องคนปล่อยเอกสารหลุด
ส่วน พลเอกประวิตร ซึ่งถูกพาดพิงถึงในเอกสาร ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับกรรมการ ป.ป.ช. ที่เป็นข่าว และยืนยันว่าจะไม่ฟ้องร้องคนปล่อยเอกสาร ปล่อยให้เป็นไปตามการตรวจสอบของกระบวนการต่าง ๆ และไม่ทราบที่มาที่ไปเอกสารดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง