ธนาคารฯ แจงปมเงินสาว 6.5 แสนบาท ทำธุรกรรมปกติ

View icon 101
วันที่ 30 เม.ย. 2567 | 06.49 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีเช้านี้ที่หมอชิต นำเสนอข่าวสาวสวนทุเรียนเศร้า ตื่นมาเงินหาย 650,000 บาท จนร้องไห้สะอื้น เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าแรงลูกน้อง ล่าสุดมีความคืบหน้าเพิ่มเติม เมื่อแจ้งความแล้ว ธนาคารอายัดบัญชีทันส่วนหนึ่ง ตำรวจตรวจสอบพบเป็นบัญชีม้า เงินเข้าออกรายนาที ส่วนธนาคารชี้แจงเบื้องต้นว่า เรื่องนี้ยังมีเงื่อนงำ เพราะพบว่าเป็นการทำธุรกรรมปกติ

ธนาคารฯ แจงปมเงินสาว 6.5 แสนบาท ทำธุรกรรมปกติ
กรณี นางสาวปัญย์ภัฏฐ์ เอกอุดม อายุ 39 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองระยอง ว่าเมื่อ 24 เมษายน เธอได้เข้านอนปกติ พอตื่นเช้ามา ตนเองกดเข้าแอปฯ ธนาคารไม่ได้ แถมเจอสลิปโอนเงินหลายครั้ง ยอดรวมจำนวน 650,000 บาท

เธอยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้โอนเงินเอง และได้ตั้งล็อกวงเงินโอนออกไว้ไม่เกิน 30,000 บาท แถมตั้งค่าต้องสแกนใบหน้าไว้ด้วย แต่ธนาคารให้มีการโอนออกไปได้อย่างไร แล้วความเชื่อมั่นระบบธนาคารยังเชื่อถือได้หรือไม่

ล่าสุดทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ติดต่อสอบถามทางธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางบัญชี กับทางนางสาวปัญย์ภัฏฐ์ เจ้าของสวนทุเรียน เบื้องต้นทางธนาคารชี้แจงผ่านทางทีมงานสั้น ๆ ว่า
- ธนาคารตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นรายการทำธุรกรรมตามปกติ
- ธนาคารได้มีการแจ้งผลกับลูกค้าแล้ว
- กรณีหน่วยงานทางการประสานงานขอข้อมูล ธนาคารยินดีให้ความร่วมมือ

ตร.ยังไม่พบพิรุธ ตรวจพบบัญชีม้า สั่ง ปปง.อายัดแล้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถามทางรอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ก็เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ยังไม่พบพิรุธของผู้เสียหาย แม้ว่าทางธนาคารแจ้งว่าเป็นการทำธุรกรรมปกติ หรือตั้งสมมติฐานว่าเจ้าของบัญชีเป็นคนสแกนใบหน้า แล้วโอนเงินออกไปเองหรือไม่

โดยพนักงานสอบสวนตรวจสอบ Statement จากธนาคาร เบื้องต้นพบเป็นบัญชีปลายทาง เป็นธนาคารสีเขียว ที่เชื่อว่าเป็นบัญชีม้าแน่นอน เพราะมีรายการเข้าออกเป็นรายนาที รวมเงินเป็นก้อนแล้วจะโอนต่อไปแถวสองทันที

โดยทางตำรวจ ได้แจ้ง ปปง. ให้อายัดบัญชีทั้งหมดของชื่อบุคคลนี้ทันที

ส่วนความคืบหน้าของเงินที่โอนออกไปทั้งหมด 650,000 บาท เป็นของธนาคารสีเขียว 450,000 บาท เจ้าหน้าที่สั่งอายัดบัญชีทัน เงินยังเหลืออยู่ 100,000 บาท และบัญชีสีม่วงโอนไป 200,000 บาท อายัดบัญชีทัน เงินยังอยู่ครบทุกบาท

ซึ่งจากข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ทางตำรวจเชื่อว่ามิจฉาชีพมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สามารถรู้แม้กระทั่งเลขที่บัตรประชาชนของผู้เสียหาย เรื่องการสแกนหน้านั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า มิจฉาชีพดึงรูปภาพในโทรศัพท์ของผู้เสียหายไปใช้  ซึ่งต้องรอเอกสารจากทางธนาคารชี้แจงมาก่อน เพื่อสืบสวนต่อไป

สาวเงินหาย 6.5 แสนบาท ยืนยันไม่ได้โอนออกเอง
ในขณะที่ นางสาวปัญญย์ภัฏฐ์  ผู้เสียหายได้แจ้งผู้สื่อข่าวผ่านทางรองผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองระยอง ว่ายังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เพราะยังติดตัดทุเรียน แต่กล่าวสั้น ๆ ว่า ดีใจที่อายัดบัญชีได้ทันจำนวนหนึ่ง แต่รู้สึกท้อใจที่ธนาคารแจ้งว่าเป็นการทำธุรกรรมปกติ ซึ่งตนยืนยันว่า ตนไม่ได้ทำธุรกรรมโอนเงินไปยังบัญชีปลายทางทั้ง 2 บัญชีนั้นแน่นอน แต่ก็ทำใจแล้วว่า ไม่รู้จะได้เงินที่เหลือคืนหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง