สนามข่าว 7 สี - ดูท่าคดีอุบัติเหตุที่หญิงอายุ 77 ปี ถอยรถไปชนหญิงอายุ 67 ปี จะไกล่เกลี่ยกันยากแล้ว เพราะเมื่อวานตอนที่ตำรวจนัดทั้งสองฝ่ายไปเจอกัน นั่งอยู่ข้าง ๆ กัน ยังไม่คุยกันเลย แล้วแบบนี้จะลงเอยกันด้วยดีได้อย่างไร
คุณดารินทิพย์ ผู้สื่อข่าวของเราลงพื้นที่ไปคุยกับ นางสาวธนิตา คุณวัฒน์ ลูกสาวของผู้บาดเจ็บ ก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง หลังไปพบตำรวจ สน.ตลิ่งชัน อยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง บอกว่า ตำรวจนัดทั้งสองฝ่ายมาตรวจสอบพยานหลักฐาน และสอบปากคำ ยอมรับว่ามีโอกาสได้นั่งติดกับฝั่งคู่กรณี แต่ตั้งแต่เริ่มต้นนั่ง จนแยกย้ายกันไปสอบปากคำ อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะเข้ามาคุย หรือถามไถ่ใด ๆ จนเธอก็ไม่แน่ใจว่า แล้วแบบนี้จะไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่
เผื่อคุณชมไม่รู้ว่าคดีนี้มีที่มาที่ไปอย่าไร สรุปให้ฟังแบบนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน ในซอยอินทราวาส 7 เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เริ่มจากที่ผู้บาดเจ็บจอดรถระหว่างบ้านที่อยู่ติดกัน กับบ้านของคู่กรณี แล้วลงไปซื้อ "ข้าวหมกไก่" ร้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ทีนี้จังหวะที่รถยนต์ของหญิงอายุ 77 ปี จะเลี้ยวเข้าบ้าน เห็นว่าตนเองเลี้ยวไม่พ้น ก็เลยถอยหลังเพื่อตั้งลำใหม่ แต่จากนั้นจู่ ๆ กลับกลายเป็นพุ่งถอยหลังไปชนหญิงอายุ 67 ปี ที่ยืนอยู่ข้างรถ ได้รับบาดเจ็บ
เกิดเป็นข้อถกเถียงขึ้นมาว่า รถของผู้บาดเจ็บจอดกีดขวางทางเข้าบ้านหรือเปล่า ซึ่งทางฝั่งของคนเจ็บ ก็ยืนยันว่าไม่ได้ขวาง มีระยะห่างมากพอ และภาพวงจรปิดก็ชัดเจนว่า รถของคู่กรณียังใช้วงเลี้ยวเดิมกลับเข้าไปจอดในบ้านได้
ส่วนฝั่งของหญิงอายุ 77 ปี ก็ยอมรับว่าตนเองผิดจริง ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ แค่อยากอธิบายว่า ตอนนั้นเห็นว่ารถของคู่กรณี จอดห่างกำแพงบ้านมากเกินไป เลยคำนวณผิดเท่านั้น
แต่ส่วนที่ว่าใครจะผิดจะถูก พอถามตำรวจก็บอกว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าฝ่ายไหนผิด เพราะยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่เรียบร้อย ต้องรอผลการตรวจรถ, ภาพกล้องวงจรปิด, ผลสอบปากคำ และดูใบรับรองแพทย์ประกอบ จึงจะพิจารณาเรื่องการแจ้งข้อหาต่อไปได้
