บึ้มเต็มหน้า! หนุ่มน้อยวัย 14 ดับ ถูกแก๊งคู่อริปาระเบิดปิงปองใส่หลังกลับจากดูหมอลำ

บึ้มเต็มหน้า! หนุ่มน้อยวัย 14 ดับ ถูกแก๊งคู่อริปาระเบิดปิงปองใส่หลังกลับจากดูหมอลำ

View icon 206
วันที่ 6 พ.ค. 2567 | 08.38 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
แก๊งโจ๋วัย 14 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามปาระเบิดปิงปองใส่แก๊งคู่อริหลังกลับจากดูหมอลำ ระเบิดบึ้มเต็มหน้าคู่อริดับ 1 อีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดตำรวจจับตัวได้แล้ว เตรียมดำเนินคดีกับผู้ปกครองด้วยที่ไม่ดูแลบุตรหลาน

วันนี้ (6 พ.ค. 67) เยาวชนอายุ 14 ปี ถูกระเบิดปาใส่ที่บริเวณใบหน้านอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณหน้าร้านขายเครื่องการเกษตรแห่งนึ่ง ริมถนน 210 ใน ต.นาคำไฮ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ทาง พล.ต.ต.ศักดา เหมือนโพธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู, พ.ต.อ.กฤติเดช ปทุมาพัฒนานนท์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู, และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ณ ที่เกิดเหตุพบ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นอนเสียชีวิตมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะฝั่งด้านซ้าย จากการสอบถาม ด.ช.บี (นามสมมติ)  และ ด.ช.ซี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ซึ่งนั่งรถจักรยานยนต์มากับผู้ตาย โดยทั้ง 2 คนได้รับบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลังเป็นจุดสีแดงจากการโดนสะเก็ดระเบิดแต่บาดเจ็บไม่มาก ได้เล่าว่า ตนมาด้วยกัน 3 คน หลังจากกลับจากดูหมอลำ ขณะขี้ขี่รถมาถึง 4 แยก นาคำไฮ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมา ต่อมาได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 3 ครั้ง และพบว่าเพื่อนคือ ด.ช.เอ ได้หงายหลังตกจากรถ และมีเลือดไหลออกเป็นจำนวนมากที่บริเวณใบหน้า และได้เสียชีวิต โดยตนรู้ว่าคนที่ปาระเบิดใส่พวกตนคือใคร เพราะอยู่ตำบลเดียวกัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้เชิญตัวผู้ปกครอง พร้อมผู้ต้องสงสัยเป็นเยาวชนอายุ 14 ปีทั้งหมด 3 คน มาที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู โดยเด็กเยาวชนทั้ง 3 คน ได้รับสารภาพเล่าว่า เป็นคนลงมือปาระเบิดปิงปองจริง โดยระเบิดนั้นทำขึ้นเอง ซึ่งพกระเบิดมาคนละ 1 ลูก โดยพวกตนเคยมีเรื่องบาดหมางกันกับกลุ่มผู้เสียชีวิตมาก่อน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงก็เห็นภาพเหตุการณ์เพราะจุดที่เกิดเหตุมีไฟฟ้าส่องสว่าง

ทาง พ.ต.อ.กฤติเดช ปทุมาพัฒนานนท์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำประวัติผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนไว้ และจะนำตัวผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายรวมเป็นทั้งหมด 5 คน มาสอบปากคำต่อหน้าทีมสหวิชาชีพ เพราะเนื่องจากทั้งหมดเป็นเยาวชน  ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจ และตนได้ปรึกษากับผู้บังคับบัญชา โดยจะดำเนินการกับผู้ปกครองในฐานะที่ไม่ดูแลบุตรหลานจนทำให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง