ศธ. ถกสร้างวินัยแก้หนี้ครู ปั้นโค้ชอบรมในเขตการศึกษา พร้อมจัดแผนลดดอกเบี้ยสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เพิ่มสภาพคล่อง หลังพบดอกเบี้ยสูง ถูกหักเงินเดือนใช้หนี้แทบไม่เหลือ
วันนี้ (7 พ.ค.67) ที่ห้องประชุมจันทรเกษม หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเสริมสร้างความรู้ และทักษะการวางแผนทางการเงินและการออม โดยมี นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) ผู้บริหาร ผู้แทนของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ นายจักรพงษ์ เมษพันธุ์ “โค้ชหนุ่ม” ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่มีปัญหาหนี้สินและต้องเร่งดำเนินการแก้ไขเข้าร่วม
โดย พล.ต.อ. เพิ่มพูน กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู และบุคลากรทางการศึกษา เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยจะต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการวางแผนการใช้เงิน การเก็บออมเงิน รวมทั้งการเสริมสร้างความรู้ สร้างวินัยการบริหารจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสภาพคล่องทางการเงิน มีขวัญกำลังใจ และมีสมาธิในการแก้ปัญหา และพัฒนานักเรียน รวมทั้งสามารถวางแผน พัฒนาตนเองได้อย่างดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพัฒนาคุณภาพนักเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ ส่งผลให้นักเรียนมีคุณภาพขึ้น
ด้านนางเกศทิพย์ กล่าวว่า สพฐ. ได้นำนโยบายแก้ปัญหาหนี้สินของครูและบุคลากรทางการศึกษามาสู่การปฏิบัติ โดยการจัดอบรมครั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มครูแกนนำในสถานีแก้หนี้ครูของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และกลุ่มครูที่เป็นหนี้ โดยกลุ่มครูแกนนำจะอบรมทักษะทางการเงินไม่ว่าจะเป็นการเจรจาแก้หนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อเป็นทีมกลางของแต่ละเขตพื้นที่ นำไปขยายผลในเขตพื้นที่และสถานศึกษาของตัวเอง และปูพรมการเรียนรู้วิธีบริหารจัดการสร้างวินัยทางการเงิน ขณะที่กลุ่มครูที่เป็นหนี้จะเรียนรู้การจัดการหนี้ให้มีเงินออมและเสริมสภาพคล่องทางการเงินของตัวเองได้ นอกจากเราจะมีการอบรมทักษะทางการเงินให้แก่ครูแล้ว ยังมีการจัดอบรมวิธีบริหารจัดการเงินให้แก่นักเรียนด้วย เนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนพบว่า อยากเรียนรู้เรื่องดังกล่าวในกลุ่มนักเรียนระดับประถมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษา
ทั้งนี้ จากการดำเนินงานแก้ปัญหาหนี้ พบครูและบุคลากรทางการศึกษามีหนี้จำนวนมาก และขาดสภาพคล่องทางการเงินในแต่ละเดือน เนื่องจากถูกหักเงินเดือนไปใช้หนี้เกือบหมดบัญชี โดยหนี้ครูส่วนใหญ่จะอยู่ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ซึ่งผลสำรวจมีสหกรณ์ฯ 13 แห่ง ประธานเป็นผู้อำนวยการเขตพื้นที่ และอีก 10 แห่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ดังนั้น เราจึงจัดทำแผนการลดดอกเบี้ยของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เพื่อช่วยเหลือให้ครูมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูน้อยที่สุดอยู่ที่ 3.5% มากที่สุดอยู่ที่ 9.1% ซึ่งจากการจัดทำแผนลดอัตราดอกเบี้ยทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูบางแห่งช่วยลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้ว เช่นที่ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.สระบุรี อัตราดอกเบี้ยลดลงเหลือ 4.5% ขณะที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.กาญจนบุรี ลดลงเหลือ 4.1 %” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว
