รวบภัยร้ายตัวพ่อแฝงเป็นโมเดลลิงล่อลวงสาวเอ็น

รวบภัยร้ายตัวพ่อแฝงเป็นโมเดลลิงล่อลวงสาวเอ็น

View icon 113
วันที่ 9 พ.ค. 2567 | 12.04 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สืบนครบาลรวบ “มีน พระราม 3” คาเตียงนอน หลังลวงสาวเอ็น ฯ นับครั้งไม่ถ้วน สารวัตรแจ๊ะ เปิดโหมดหมาล่าเนื้อ นาน 48 ชั่วโมง จนคนร้ายไปจนมุมที่เพชรบูรณ์ อ้างเคยทำแค่ 8 คน

เมื่อวันที่ 9  พฤษภาคม  2567  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.  สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบนครบาล สืบสวนจับกุม นายกิตติกร หรือ มีนพระราม3 อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดี ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม จับกุมได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ที่ ม.8 ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

สืบเนื่องจาก “โมเก๊-ทรงเอ” หรือ “บังมีนพระราม3” ภัยร้ายวงการสาวเอ็น ฯ ก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี แฝงตัวในกลุ่มไลน์เด็กเอ็น ฯ ปลอมตัวเป็นโมเดลลิงสาว ทักไปหาสาวเอ็นฯ เลือกเหยื่อสาวหน้าอกใหญ่ ที่กำลังประกาศหางาน คนร้ายจะใช้ทักษะการสนทนาแบบทรงเจ๊ “ป้ายยา”ว่ามี “ลูกค้ารวย” ติดต่อมา เมื่อเหล่าสาวเอ็น ฯ หลงเชื่อ จะนัดหมายเหยื่อไปหาที่ย่าน “พระราม3” โดยให้ถอนเงินจากบัญชี เพื่อเดิมพันเล่นเกม เมื่อเหยื่อมาถึง คนร้ายจะปลอมเป็น “ลูกค้า” โอ้อวดว่าเป็นเสี่ยมีเงิน ก่อนจะบังคับให้ใช้มือสำเร็จความใคร่ และใช้กำลังบังคับขืนใจเหยื่อ บางคนถูกใช้ปืนข่มขู่ ให้กลัว และจำยอม ก่อนจะแอบฉกเงิน ในกระเป๋าของเหยื่อหนีหายไป เรียกได้ว่าคนที่ตกเป็นเหยื่อ “เสียทั้งตัว และเสียทั้งตังค์” เหยื่อบางคนเกือบคิดสั้น เพราะเงินสดที่ถูกมันขโมยไป เป็นเงินเก็บทั้งชีวิต โดยพบว่ามีคนตกเป็นเหยื่อมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 คน แต่เกือบทั้งหมดไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดีเพราะอับอาย  ถูกข่มขู่ว่าจะปล่อยคลิปลับ

หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ชุดสืบสวนนครบาลลงพื้นที่สืบสวน พบว่าคนร้าย ไปอยู่ในกลุ่มแก๊งใหญ่ย่านพระราม 3 มีร้านชำในซอยเจริญราษฎร์ 7 เป็นฉากหน้า หลังร้านเป็นแหล่งผลิตน้ำกระท่อมขาย จึงนำกำลังบุกเข้าไปตรวจสอบ พบอุปกรณ์การผลิตและนำกระท่อมสำเร็จรูปจำนวนมาก แต่ไม่พบตัวนายมีนพระราม 3

ต่อมาพบว่าผู้ต้องหา ส่งข้อความไลน์มาท้าทาย “เดี๋ยวไปมอบเอง ไม่ต้องหา จ้งแจ๊ะไรก็หากูไม่เจอหรอก” พร้อมส่งภาพอาวุธปืนลูกโม่ และปล่อยข่าวสับขาหลอก ว่าอยู่ที่ จ.นนทบุรี แต่ชุดสืบสวนพบเบาะแสอยู่ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ จึงนำกำลังไปจับกุมตัวเอาไว้ได้

นาย มีน พระราม 3 ให้การภาคเสธ อ้างว่า เคยถูกจับในคดียาสเพติด เมื่อปี 2559 และพ้นโทษเมื่อปี 2562 ได้ออกมาขับรถรับจ้าง และเป็นไรเดอร์รับส่งอาหาร ระหว่างนั้นได้ทำงานให้กับ นางเอ ที่เป็นโมเดลลิงรับจัดหาเด็กเอ็น จึงเรียนรู้งาน จนมีความรู้ความชำนาญ ก่อนจะแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มไลน์ ปลอมตัวเป็นโมเดลลิงรับจัดหาเด็กเอ็น ฯ และก่อนเหตุล่อลวงเหยื่อ โดยทำมาแล้ว 8 คน แต่ไม่ได้มีการขโมยเงิน หรือการข่มขืนตามที่เป็นข่าว โดยหนีไปที่บ้านญาติ แต่มาถูกตำรวจบุกจับถึงเตียงนอน ตำรวจคุมตัว นายกิตติกร หรือมีนพระราม3 ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะเบาะแสล่าสุดที่มี มีผู้เสียหายมาเข้าแจ้งความเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก และจากการตรวจสอบในโทรศัพท์ของคนร้ายก็พบว่ากำลังแชทสนทนาลวงเหยื่ออยู่ถึง 8 คน จึงคาดว่าน่าจะก่อเหตุกับเหยื่อมาแล้วจำนวนหลายคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง