ปธน.สหรัฐฯ ประกาศจะหยุดส่งอาวุธให้อิสราเอล หากทางอิสราเอลยังโจมตีเมืองราฟาห์ หลังอาวุธที่สหรัฐฯ ส่งให้ถูกนำไปใช้โจมตีชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ แต่ทางอิสราเอลยังไม่มีท่าทีจะยกเลิกแผนโจมตีเมืองราฟาห์
วันนี้ (9 พ.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเตือนอิสราเอลต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกว่า สหรัฐฯ จะระงับการส่งอาวุธให้อิสราเอล หากยังเดินหน้าบุกโจมตีเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา พร้อมยอมรับว่า อาวุธต่าง ๆ ที่สหรัฐฯ จัดหาให้อิสราเอล ถูกนำไปใช้สังหารประชาชนในฉนวนกาซา แม้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้น คือการส่งอาวุธเพื่อทำลายล้างกลุ่มฮามาส โดยสหรัฐฯ เกรงว่า ในการโจมตีเมืองราฟาห์ครั้งนี้อาวุธของสหรัฐฯ ก็จะถูกใช้เพื่อโจมตีผู้บริสุทธิ์เช่นเดียวกัน
หลังคำประกาศถูกเผยแพร่ออกไป ทางการอิสราเอลยังไม่มีการตอบโต้ใดใด แต่สร้างความไม่พอใจให้กับ นาย กิลาด เออร์ดาน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ที่ออกมาประณามการตัดสินใจของสหรัฐฯ และกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ “น่าผิดหวัง” อย่างมาก
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติแผนโจมตีเมืองราฟาห์ อีกทั้งเขายังยืนยันว่า จะปฏิบัติการในเมืองราฟาห์ เพื่อกำจัดนักรบฮามาสหลายพันคน ที่อิสราเอลเชื่อว่ายังมีศูนย์บัญชาการอยู่ในเมืองนี้
ทั้งนี้ หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้นำสหรัฐฯ ได้รับแรงกดดันจากทั้งสมาชิกพรรคเดโมแครต และกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์ที่ขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ หยุดให้ความช่วยเหลือแก่อิสราเอลและเรียกร้องความเป็นธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
