ภารกิจนายกฯ 10-21 พ.ค.นี้

ภารกิจนายกฯ 10-21 พ.ค.นี้

View icon 72
วันที่ 10 พ.ค. 2567 | 11.00 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“นายกฯ เศรษฐา” ลงพื้นที่ยาวๆ 10-21 พ.ค.นี้ ตรวจราชการ ประชุมครม.สัญจร และเยือนต่างประเทศ

โดยภารกิจ เริ่มตั้งแต่วันนี้ ( 10 พ.ค.67)  ถึง 12 พ.ค. ตรวจราชการ จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

10 พ.ค. 67 จังหวัดสุพรรณบุรี
เวลา 14.15 น.   นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พูดคุยประเด็นปัญหาในพื้นที่ และพบปะประชาชน ณ ประตูระบายน้ำจรเข้สามพัน ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

เวลา 15.00 น.   นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พูดคุยประเด็นปัญหาในพื้นที่ ณ ประตูระบายน้ำลาดน้ำเตียน ตำบลศาลาขาว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี

เวลา 15.45 น.   นายกรัฐมนตรี สักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง) ณ วัดเขาทำเทียม ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

11 พ.ค. 67 จังหวัดกาญจนบุรี

เวลา 10.00 น.   นายกรัฐมนตรี ติดตามประเด็นปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากในพื้นที่เทศบาล ณ แก้มลิงตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

เวลา 13.30 น.   นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี (ประเด็นสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน/ด่านศุลกากร/แรงงานข้ามชาติ/ประเด็นอื่น ๆ) ณ กองพลทหารราบที่ 9 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

เวลา 15.30 น.   นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมสถานการณ์การค้าชายแดน ณ ด่านศุลกากรสังขละบุรี ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

เวลา 16.15 น.   นายกรัฐมนตรี หารือการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ณ สะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

12 พ.ค. 67 จังหวัดราชบุรี

เวลา 11.00 น.   นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์การซื้อขาย ราคาผลิตทางการเกษตร และพบปะประชาชนชาวเกษตร ณ ตลาดกลางผักและผลไม้จังหวัดราชบุรี (ตลาดศรีเมือง) ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี

เวลา 13.00 น.   นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาจังหวัดราชบุรี ณ ศาลากลางจังหวัดราชบุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี

เวลา 14.15 น.    นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมและหารือการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ณ โรงโอ่งรัตนโกสินทร์ 1 ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี

จากนั้น นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3 ที่ จ.เพชรบุรีวันที่ 13 - 14 พ.ค. นี้

โดย 13 พ.ค. 67 นายกรัฐมนตรีและคณะ เยี่ยมชมเทคโนโลยีการกำจัดขยะการบำบัดน้ำเสีย และปลูกป่าชายเลน ที่โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ /จากนั้นตรวจเยี่ยมการพัฒนามาตรฐานสนามบิน เพื่อรองรับ International flights ที่ท่าอากาศยานหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ // และช่วงเย็น เยี่ยมชมการสาธิตการแข่งขันกีฬาวัวลาน – วัวเทียมไถ ของสมาคมอนุรักษ์วัวลานพื้นบ้าน กลุ่มจังหวัดภาคกลาง

ส่วน 14 พ.ค. 67 นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการบริเวณอาคารสุเมธตันติเวชกุล มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จากนั้น เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 3 โดยจะใส่เสื้อ “ลายสุวรรณวัชร์”ผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด ด้วย

ขณะที่ 15-21 พ.ค. 67 นายกฯเยือนฝรั่งเศส-อิตาลีพร้อมร่วมประชุม Nikkei Forum ที่ญี่ปุน

โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี และคณะ มีกำหนดการเยือน กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อนำคณะนักธุรกิจไทยร่วมงาน Thailand - France Business Forum & Roundtable ระหว่างวันที่ 15 - 16 พฤษภาคม 2567 การเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการ และกิจกรรมคู่ขนาน ระหว่างวันที่ 17 - 21 พฤษภาคม 2567 ณ เมืองมิลาน และกรุงโรม และการเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 22 - 24 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

สำหรับการเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศสในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างไทย - ฝรั่งเศส ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วง 3 เดือน ภายหลังการเดินทางเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 7 - 12 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบหารือทวิภาคีกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ เพื่อติดตามผลการเยือนฯ โดยเฉพาะในด้านการค้าการลงทุน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และ Soft Power พร้อมทั้งนำคณะนักธุรกิจไทยร่วมงาน Thailand - France Business Forum & Roundtable ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการหารือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ในห้วงการเยือนฯ

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งพบหารือทวิภาคีกับนางจอร์จา เมโลนี นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกระชับความร่วมมือในสาขาที่ไทยและอิตาลี ศักยภาพ อาทิ 1) ด้านพลังงานหมุนเวียน 2) การท่องเที่ยวเชิงกีฬา 3) วิทยาศาสตร์การแพทย์และเภสัชกรรม 4) ด้านกลาโหม รวมทั้งแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียน GI ในยุโรป การส่งเสริมธุรกิจ SMEs ด้านอวกาศ และความยั่งยืนทางอาหาร ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะมีกำหนดการพบหารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ระดับโลกของอิตาลีและจะเชิญชวนให้ภาคเอกชนอิตาลีลงทุนในไทย โดยเฉพาะ ด้านแฟชั่น และ soft power ด้านการเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์ และพลังงาน ซึ่งรวมทั้งจะได้พบหารือกับ ประธาน the National Chamber of Italian Fashion องค์กรที่มีความสำคัญด้านแฟชั่นของอิตาลีอีกด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจในยุโรป นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเข้าร่วมและกล่าวปาฐกถาในการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนญี่ปุ่น และดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนญี่ปุ่นเข้ามาในไทยมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง