ห้องข่าวภาคเที่ยง - เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว มีคดีอุ้มฆ่าฝังดินหญิงสาวใส่ชุดสีเหลือง แล้วเอาศพไปฝังอำพรางถึงบนภูเขาหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม จังหวัดนครศรีธรรมราช จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 9 คน แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า คนร้ายแก๊งนี้อุ้มฆ่าหญิงคนนี้ไปทำไม
ข้อมูลทางการสืบสวนของตำรวจสอบสวนกลาง แบ่งผู้ต้องหาแก๊งนี้ออกเป็น 3 กลุ่ม มีด้วยกัน 9 คน กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ลักพาตัว หรือ อุ้มฆ่า มีด้วยกัน 4 คน กลุ่มที่ 2 จะนำรถไปขายประเทศเพื่อนบ้าน อีก 4 คน และสุดท้ายคนที่ซ่อนเร้นอำพรางศพ มี 1 คน ที่ลงมือ
โดยก่อนหน้านี้ตำรวจจับกุม นายบุญยืน, นายสุขพินันท์ และ นายเอกลักษณ์ ดำเนินคดีไปจนศาลมีคำพิพากษาแล้ว โดย 2 คนแรก ศาลพิพากษาว่ามีความผิดฐาน "ร่วมกันปล้นทรัพย์" จำคุกคนละ 9 ปี ส่วนอีกคน ศาลพิพากษาว่ามีความผิดฐาน "ซ่อนเร้นอำพรางศพ" จำคุก 1 ปีเศษ
เท่ากับว่ายังเหลืออีก 6 คน ที่ยังไม่ได้ตัวตำรวจ ก็ตามสืบสวนจนไปจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 3 คน หนึ่งในนี้มี นายธนวิชญ์ หรือ เพชร ที่ลงมือตั้งแต่ร่วมกันบุกเข้าไปเอาตัว "นางสาวสุดารัตน์" สาวชุดเหลืองที่เสียชีวิต ออกจากบ้าน ขึ้นรถเดินทางไปหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม ซึ่งก็ไปไม่ง่ายต้องเดินเท้าขึ้นเนินสันเขา ไปประมาณ 300-400 เมตร และยังต้องข้ามลำห้วยไปประมาณ 10 เมตร ถึงจะไปถึงจุดที่นำศพไปฝังอำพราง
อุปสรรคสำคัญของการคลี่คลายคดีนี้ไม่ใช่เรื่องอื่น เกิดจากสามีผู้เสียชีวิตไม่ให้ความร่วมมือ จึงไม่สามารถสรุปได้ว่ามูลเหตุจูงใจเป็นความขัดแย้งจากประเด็นใดกันแน่ ตำรวจทำได้เพียงรวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุได้ และจากเบาะแสล่าสุด น่าเชื่อว่าปมเหตุอาจเกิดจากความขัดแย้งทางธุรกิจผิดกฎหมาย หรือขัดแย้งจากการค้าหมูที่ผู้เสียชีวิตดำเนินกิจการอยู่ ซึ่งหลังจากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหากลับไปยัง สภ.ช้างกลาง สืบสวนขยายผลต่อไป
