ห้องข่าวภาคเที่ยง - ความคืบหน้าการตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมี Pyrolysis Gasoline ที่จังหวัดระยอง ยังต้องใช้เวลาเข้าพื้นที่ และประเมินความเสียหาย
เร่งตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ถังสารเคมี มาบตาพุด
ในส่วนของพนักงานที่เสียชีวิต จากแรงระเบิด ผู้บริหารบริษัท เข้าช่วยเหลือเยียวยาครอบครัว และจะรับผิดชอบส่งเสียบุตร ไปจนเรียนจบปริญญา
สถานการณ์เพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมีในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เมื่อวานที่ใช้เวลา 7 ชั่วโมง ควบคุมเพลิงได้ สงบลงแล้ว ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (9 พ.ค.) และตลอดคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดโฟมทุก ๆ 15 นาที เพื่อควบคุมอุณหภูมิในถังที่ยังร้อนอยู่ แล้วจะเริ่มขั้นตอนการดูดสารเคมีที่เหลือในถังออกให้หมด
ส่วนการตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ ยังต้องใช้เวลา ขณะนี้ บริษัทประกันภัย เตรียมการเข้าสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นในทันทีที่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เพื่อประเมินความเสียหายตามกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินความเสียหายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
สรุปเหตุการณ์นี้ มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 5 คน ผู้บริหารบริษัทที่เกิดเหตุ แถลงจะดูแล เยียวยา และให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะลูกของผู้เสียชีวิต บริษัทจะส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญา
อาลัยพนักงานผู้เสียชีวิต จากเหตุเพลิงไหม้
เฟซบุ๊กเพจ "Fire & Rescue Thailand" โพสต์อาลัยพนักงานชาย ที่พยายามขึ้นไปปิดวาล์วบนถัง และเสียชีวิตจากแรงระเบิด เพจ คนอาสา ดับเพลิง-กู้ภัย ประเทศไทย ขอแสดงความยกย่องผู้เสียชีวิต ในความกล้าหาญและเสียสละ
นายกรัฐมนตรี สั่งช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนิคมอุตสาหกรรม ดูแลประชาชน และเยียวยาผู้ประสบภัย ขณะนี้ได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์สาธารณภัยแล้ว
จากเหตุไฟไหม้ถังเก็บสารเคมี ที่มาบตาพุด เมื่อวานนี้ จังหวัดระยอง ประกาศ "ภาวะฉุกเฉินระดับ 2" สั่งอพยพคนในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง "ระดับ 2" เป็นระดับสถานการณ์สาธารณภัยขนาดกลาง สถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น จะมีปฏิบัติการฉุกเฉินตามแผนเผชิญเหตุ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด บัญชาการเหตุการณ์ ตามสถานการณ์สาธารณภัย จะมีทั้งหมด 5 ระดับด้วยกัน ตามความรุนแรง
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าสถานการณ์และรับหนังสือ จากประธาน ทสจ.และชาวบ้าน ขอให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุ และมาตรการป้องกันอัคคีภัย โรงงานสารเคมีอันตรายในจังหวัดระยอง