รวบเพิ่มแก๊งอุ้มฆ่าสาวเมืองคอน ฝังบนภูเขา คาดรับงานนายทุน ฆ่าล้างหนี้ยาเสพติดแทนผัว

รวบเพิ่มแก๊งอุ้มฆ่าสาวเมืองคอน ฝังบนภูเขา คาดรับงานนายทุน ฆ่าล้างหนี้ยาเสพติดแทนผัว

View icon 94
วันที่ 10 พ.ค. 2567 | 16.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กองปราบ รวบเพิ่ม 3 ราย แก๊งอุ้มฆ่าสาวเมืองคอน ฝังบนภูเขา คาดรับงานนายทุน ฆ่าล้างหนี้ยาเสพติดแทนผัว ขณะที่ทั้ง 3 ยอมรับสารภาพ แต่ยังไม่เผยมูลเหตุ

วันนี้ (10 พ.ค.67) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. และ พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป. ร่วมแถลงผลจับกุม นายธนวิชญ์ หรือเพชร อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง และซ่อนเร้นอำพรางศพ” นายไพฑูรย์  อายุ 38 ปี และ น.ส.อำพิลา อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ข้อหา “ร่วมกันรับของโจร” โดยสามารถจับกุมนายธนวิชญ์ ได้ในพื้นที่ ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ส่วนนายไพฑูรย์ ถูกจับได้ที่ริมถนนสายบ้านเก่า-ห้วยน้ำขาว หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และจับกุม น.ส.อำพิลา ได้ที่ริมถนนสุขาภิบาลหวายเหนียวสาย 2 หมู่ 1 ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.66 ญาติของ นางสุดารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือตำรวจ สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ว่า นางสุดารัตน์ หายตัวไปจากบ้าน พร้อมรถยนต์สีขาว จึงร่วมกับ กก.5 บก.ป. ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพัก พบร่องรอยประตูห้องนอนถูกทำลาย เชื่อว่าการหายตัวไปน่าจะถูกประทุษร้ายต่อชีวิต จึงเร่งกระจายกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสเป็นการด่วน จนพบรถยนต์ของผู้ตายขับเข้ามาในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้าไปทางพื้นที่ชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน จึงเร่งติดตามยึดรถกลับคืน พร้อมแกะรอยสืบสวนเรื่อยมา กระทั่งทราบว่านางสุดารัตน์ถูกฆ่าฝังศพอำพรางทิ้งไว้บนภูเขาหลังสำนักสงฆ์ใน อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จึงเร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย เชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการ 9 ราย

โดยผู้ต้องหาได้แบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน 3 กลุ่ม กลุ่มแรก 4 คน ทำหน้าที่ลักพาตัวไปสังหาร กลุ่มที่ 2 มี 4 คนนำรถผู้ตายไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนอีกคนที่เหลือทำหน้าที่ฝังอำพรางศพ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจกองปราบปรามได้ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมตัวได้แล้ว 3 คน ทำหน้าที่ลักพาตัวไปสังหาร และอำพรางศพ จากนั้นขยายผลต่อเนื่องจนกระทั่งจับกุม นายธนวิชญ์ ตัวการสำคัญที่ทำหน้าที่เข้าไปอุ้มฆ่าผู้ตายกับ นายไพฑูรย์ และ น.ส.อำพิลา ที่ทำหน้าที่นำรถไปขายประเทศเพื่อนบ้านได้เพิ่มเติมดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวว่า สำหรับชนวนเหตุการอุ้มฆ่าครั้งนี้ แนวทางสืบสวนเชื่อว่าเป็นการฆ่าล้างหนี้ยาเสพติด หรือธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากตัว นางสุดารัตน์ ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร แต่สามีเป็นเอเยนต์ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้  เมื่อตรวจสอบประวัติ นายธนวิชญ์ หนึ่งในผู้ต้องหา พบว่าเคยมีประวัติรับจ้างอุ้มทวงหนี้ และก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงเชื่อว่าน่าจะรับงานว่าจ้างจากนายทุนยาเสพติดให้มาก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ยังไม่ยอมเปิดเผยมูลเหตุสังหารผู้ตาย แม้ในเบื้องต้นจะให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง