น้องพิมพ์ อินฟูลเอนเซอร์ชื่อดัง ขอร้องทั้งน้ำตาอย่าส่งต่อคลิปส่วนตัว

น้องพิมพ์ อินฟูลเอนเซอร์ชื่อดัง ขอร้องทั้งน้ำตาอย่าส่งต่อคลิปส่วนตัว

View icon 921
วันที่ 13 พ.ค. 2567 | 13.07 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
น้องพิมพ์ อินฟูลเอนเซอร์ชื่อดัง ไม่เข้าใจว่าคนที่ปล่อยคลิปมีวัตถุประสงค์อะไร ทำไมต้องใจร้ายกับตน ขอความเห็นใจ โปรดให้เกียรติ หากเห็นคลิปดังกล่าว ขอไม่แชร์ต่อ อย่าดู หรือช่วยกันกด Report

จากกรณีที่น้องพิมพ์ กรกนก อายุ 23 ปี นางแบบชื่อดัง ถูกผู้ไม่หวังดีปล่อยคลิปส่วนตัวกับแฟนเก่าผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดในเรื่องทางคดีและทางกฎหมาย ซึ่งวันนี้ (13 พ.ค.67) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พาน้องพิมพ์ กรกนก เข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หรือตำรวจไซเบอร์ 1 เพื่อแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับการปล่อยคลิปส่วนตัวจนทำให้ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้แฟนคนเก่าของน้องพิมพ์ ได้เลิกกันไปตั้งแต่ เดือน ส.ค. - ก.ย. ปีที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุแฟนเก่า ทักมาคุย ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนปล่อยแต่ยอมรับว่า ยังไม่ได้ลบคลิป ซึ่งก็เชื่อคำพูดของฝ่ายชาย 50:50 เท่านั้น เพราะยังไม่ชี้ชัดว่าฝ่ายชายเป็นคนปล่อยหรือไม่ อีกทั้งฝ่ายชายก็อ้างว่า ไม่ได้นำมือถือไปส่งซ่อมแต่อย่างใด หลังเลิกกันก็ตกลงว่าจะลบคลิป ก็ไม่ทราบว่าทำไมฝ่ายชายถึงไม่ยอมลงคลิป

สภาพจิตใจจอนนี้โอเคขึ้น เพราะหลายคนส่งกำลังใจให้ รวมทั้งหลายคนก็ให้เกียรติด้วยการไม่แชร์ต่อและช่วยกันกด Report คลิป อีกทั้งยังมีผู้หลักผู้ใหญ่หลายฝ่ายเข้ามาให้การช่วยเหลือ

น้องพิมพ์เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนไม่เข้าใจว่าคนที่ปล่อยคลิปมีวัตถุประสงค์อะไร ทำไมต้องใจร้ายกับตนด้วย ขอความเห็นใจ โปรดให้เกียรติตน หากเห็นคลิปดังกล่าว ก็ขอไม่แชร์ต่อ อย่าดู หรือช่วยกันกด Report จะดีที่สุด ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่ได้มาแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพราะตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทางกฎหมาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็ตาม ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ เปิดเผยว่าหลังจากนี้ จะให้ทางพนักงานสอบสวนหญิงสอบปากคำน้องพิมพ์ และจะใช้เครื่องมือพิเศษของตำรวจไซเบอร์ในการตรวจวิเคราะห์บรรดา Social Media ต่าง ๆ ที่มีการแชร์คลิป รวมทั้งจะออกหมายเรียกแฟนเก่า ของน้องพิมพ์ ซึ่งถือเป็นต้นตอหลักมาให้ปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยจะดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่นำคลิปมาเผยแพร่และแชร์ต่อ ไปจนถึงผู้ที่อยู่ในกลุ่มแชร์คลิป

ขณะที่นายเอกภพ เผยว่า ตนตั้งข้อสงสัยว่า แล้วคลิปหลุดไปได้ยังไง ในเมื่อคุณไม่ยอมลบคลิปดังกล่าวตามที่ตกลงกัน มองว่าต่อให้อ้างว่านำโทรศัพท์มือถือไปส่งซ่อมแล้วคลิปหลุดจากช่างซ่อมมือถือนั้น ยังไงก็ฟังไม่ขึ้น หวังว่าทางตำรวจไซเบอร์จะสามารถนำคนผิด โดยเฉพาะผู้แชร์คลิปและผู้ลงคลิปกระจายสู่โซเชียลมีเดียมาดำเนินคดีให้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง