ตามจนเจอ! แท็กซี่เชิดเงินผู้โดยสาร สารภาพเอาไปกินเหล้า-เลี้ยงหญิงหมดแล้ว

ตามจนเจอ! แท็กซี่เชิดเงินผู้โดยสาร สารภาพเอาไปกินเหล้า-เลี้ยงหญิงหมดแล้ว

View icon 136
วันที่ 13 พ.ค. 2567 | 15.40 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจ สภ.บางแก้ว ตามจนเจอ! แท็กซี่ ฉวยโอกาสขับหนี เชิดสิ่งของ-เงินผู้โดยสารกว่าหมื่นบาท สารภาพเอาไปกินเหล้า-เลี้ยงหญิงหมดเกลี้ยงในคืนเดียว จ.สมุทรปราการ

ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในซอยเปรมฤทัย ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เผยให้เห็นขณะที่รถแท็กซี่สีส้ม คันหนึ่ง ขับเลี้ยวเข้ามาจอดกลางซอย เพื่อให้ส่งโดยสารหญิงคนหนึ่ง โดยจอดในลักษณะขวางทาง และเป็นจังหวะที่มีรถจักรยานยนต์ตามหลังมาจ่อท้ายและไปต่อไม่ได้ ทำให้ผู้โดยสารต้องรีบเปิดประตูลงจากรถ แล้วให้แท็กซี่หลบทางให้รถจักรยานยนต์ด้านหลัง ซึ่งหลังจากที่ผู้โดยสารรายนี้ลงรถเสร็จ ปรากฏว่าแท็กซี่คันดังกล่าวได้ขับออกไปทันที โดยที่ผู้โดยสารยังไม่ทันหยิบสิ่งของลงจากรถ 

จากภาพวงจรปิดอีกมุมจะเห็นว่า ผู้โดยสารพยามวิ่งตามเรียกรถแท็กซี่คันดังกล่าว แต่ก็ไม่จอดคืนของแต่อย่างใดและขับออกไปจากซอยดังกล่าว  ซึ่งสิ่งของที่ติดไปในรถนั้นมีทั้งของกินของใช้ของเตรียมทำขายและเงินสดกว่าหมื่นบาท หลังเกิดเหตุผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนของ สภ.บางแก้ว เพื่อขอให้เร่งติดตามตัวคนขับรายนี้ เหตุการณ์ตามภาพวงจรปิดเกิดขึ้นช่วงค่ำของวันที่ 10 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่หาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดจนกระทั่งทราบหายเลขทะเบียนและตัวผู้ขับขี่ จึงออกหมายเรียกให้มาพบกับตำรวจ

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (13 พ.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้เชิญตัว นายโย อายุ 43 ปี ชาว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่คันสีส้มดังกล่าว มาสอบปากคำเบื้องต้น 

โดยนาย โย คนขับรถแท็กซี่ รับสารภาพว่า เป็นคนขับรถคันดังกล่าวจริง และรับผู้เสียหายมาจริง วันเกิดเหตุหลังจากที่ส่งผู้โดยสารเสร็จ อ้างว่าไม่ทราบว่าผู้เสียหายมีของที่เบาะหลัง จนออกมาและมีผู้โดยสารท่านอื่นโบกเรียก แล้วแจ้งว่ามีสิ่งของวางที่เบาะหลัง ตอนแรกก็นึกไม่ออกว่าเป็นของผู้โดยสารท่านไหนลืมไว้หรือไม่ จึงเอาสิ่งของรวมถึงกระเป๋าทั้งหมดไปไว้ท้ายรถ แต่พอเปิดกระเป๋าดูพบว่ามีเงินสดรวมกว่าหมื่นบาท ตอนแรกตั้งใจจะเอามาคืนเจ้าของ แต่หาบ้านไม่เจอ บวกกับมีเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันยุยงบอกว่าไม่ต้องคืน จึงเกิดความคิดนั้นขึ้นมา ตัดสินใจเอาเงินทั้งหมดไปเที่ยวกลางคืนและเลี้ยงหญิงในคืนเดียวจนหมด เงินที่เลี้ยงหญิงและเด็กเสิร์ฟไปนั้นจำได้ว่าประมาณ 9,000 บาท ตนเองใช้เงินดังกล่าวเที่ยวดื่มกินจนหมดในคืนเดียว กระทั่งมีตำรวจโทรหาให้มามอบตัว จึงตัดสินใจเข้าพบตำรวจ ยมอรับว่าปกติแล้วตนเองจะเที่ยวดื่มเหล้าทุกวัน หลังจากวิ่งรถแท็กซี่ในแต่ละวัน

ขณะที่ฝ่ายผู้เสียหายยังให้โอกาสให้นายโย เร่งหาเงินมาคืนภายในวันนี้ หากไม่ได้จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย  ด้านเจ้าตัวถึงกับหน้าเครียดและพยามโทรหาหลายคนเพื่อขอยืมเงินมาคืนผู้เสียหายให้ทันกำหนด เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน ผกก. สภ.บางแก้ว เผยว่า เบื้องต้น คดีนี้ตนเองให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นคดีที่ผู้เสียหายเดือดร้อน อีกทั้งตำรวจมีหน้าที่รับใช้ประชาชน จึงต้องเร่งดำเนินการทุกคดีที่ประชาชนมาแจ้งความ ส่วนคดีนี้ต้องชมฝ่ายสืบสวนที่ไม่ย่อท้อ และสืบสวนจนกระทั่งทราบหมายเลขทะเบียนและตัวคนขับ พร้อมทั้งติดตามตัวจนมาพบในวันนี้ ซึ่งจากการพูดคุย เจ้าตัวก็รับสาภาพว่าเอาไปจริง ส่วนจะต้องถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้น ผู้เสียหายอยากได้เงินคืนและทางผู้เสียหายให้เวลาภายในเย็นวันนี้ หากผู้ก่อเหตุหาเงินมาคืนไม่ทันก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งข้อหายักยอกทรัพย์ ลักทรัพย์  

ส่วน นางวลีพร  อายุ 57 ปี ผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุไม่ค่อยสบาย จึงเรียกแท็กซี่คันดังกล่าวริมถนนสุขุมวิทแถวสำโรงเพื่อให้มาส่งที่บ้าน ซึ่งในวันนั้นตนเองซื้อสิ่งของหลายรายการมาด้วย ซึ่งเป็นของที่จะใช้ทำขนมขาย รวมถึงมีกระเป๋าสะพายภายในมีเงินรวม 12,500 บาทอยู่ด้วย ระหว่างทางมาบ้าน คนขับรายนี้ก็เปิดเพลงในรถเสียงดังมาตลอดทาง ตนเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

กระทั่งมาถึงบ้านพัก จังหวะที่ลงจากรถนั้นตนเองเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ตามหลังมา จึงบอกคนขับให้ขยับรถเลี่ยงทาง แต่พอปิดประตูได้ ตอนแรกก็คิดว่าเขาจะจอดรอ ที่ไหนได้กลับขับรถออกไปทันที ทั้งที่ตนเองพยามวิ่งตามตะโกนเรียก เพราะมีทั้งเงินและของที่เตรียมทำขนมขาย แต่แท็กซี่ก็ไม่จอด จึงตัดสินใจมาแจ้งความ ที่สภ.บางแก้ว หลังจากแจ้งความเสร็จในใจตอนแรก็คิดว่าคงทำได้แค่แจ้งความตำรวจคงไม่ตามและคงไม่ได้ทรัพย์สินคืน กระทั่งวันรุ่งขึ้นมีฝ่ายสืบสวนโทรหาตนเองและรับปากว่าจะตามตัวคนขับรายนี้มาให้ ซึ่งตำรวจมีการประสานงานและแจ้งความคืบหน้าตลอด กระทั่งวันนี้แจ้งว่าคนขับรายนี้มาพบตำรวจแล้ว

ทั้งนี้ ต้องขอบคุณตำรวจที่ใส่ใจประชาชนหาเช้ากินค่ำอย่างตนเอง ถึงแม้ว่าจะมองดูเป็นคดีเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็ใส่ใจและติดตามจนพบตัว ส่วนตัวคนขับยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน แต่ให้เขาหาเงินมาคืนเพราะเงินดังกล่าวเป็นเงินน้ำพักน้ำแรงเงินจากโบนัสที่จตนเองขยันทำงานมาตลอดทั้งปีและตั้งใจไว้ลงทุนขายของต่อ แต่หากเขาหามาให้ไม่ได้ทันก็ต้องทำใจและให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายไป