วันนี้ (16 พ.ค. 67) เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. และผู้บังคับบัญชาระดับสูง ร่วมแถลงผลการสกัดกั้นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ (นักบินตายแทน) 15 เครือข่าย ผู้ต้องหา 42 คน ยึดยาบ้า 37,286,0002 เม็ด และ ไอซ์ 942 กิโลกรัม เฮโรอีน 80 กิโลกรัม และ คีตามีน 70 กิโลกรัม รวมทั้งยึดรถยนต์ 25 คัน และ รถจักรยานยนต์ 3 คัน
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 2 พ.ค.67 ตำรวจ บก.สกส., ร่วมกับ บก.ขส., ตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายธีรภัทร และ น.ส.นงนุช สืบเนื่องจากวันที่ 26 เม.ย. 67 สืบสวนทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดมีภูมิลำเนาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา, อ.คลองหลวง และ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้ทยอยเดินทางขึ้นไปรอรับยาเสพติด ในพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อลำเลียงต่อลงมา โดยใช้เส้นทาง จ.นครพนม - จ.สกลนคร - จ.อุดรธานี - จ.ขอนแก่น - จ.นครราชสีมา - จ.สระบุรี - อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา กระทั่งจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนในหมู่บ้าน ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางยาบ้า 11,950,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวรถกระบะ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 15xx พระนครศรีอยุธยา
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 567 ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ บก.ปส.4, บก.ขส., ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจภูธรภาค 8 สืบสวนพบกลุ่มเครือข่ายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยลำเลียงจากพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย - จ.ลำปาง - จ.สุโขทัย - จ.กำแพงเพชร - จ.อุทัยธานี -จ.สุพรรณบุรี -จ.นครปฐม - จ.ราชบุรี - จ.เพชรบุรี - จ.ประจวบคีรีขันธ์ - จ.ชุมพร กระทั่งสามารถจับกุม นายสุเนตร์ ได้ที่บริเวณด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมกลางยาบ้า 5,000,000 เม็ด หลังซุกซ่อนมาในตัวถังของรถบรรทุกกากน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 70 23xx นครปฐม นอกจากนี้ตำรวจอีกชุดสามารถจับกุม นายดิศวัฒน์ พร้อมรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 3ฒร 52xx กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้เป็นรถนำทาง/สำรวจเส้นทาง ได้บริเวณริมถนนสายหลังสวน-ละแม ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร
คดีที่ 3 ตำรวจ บก.สกส.,บก.ขส. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกันจับกุมกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด หลังพบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และจะนำลงมาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี โดยใช้เส้นทางจากพื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ผ่าน จ.ลำพูน - จ.ลำปาง - จ.ตาก - จ.กำแพงเพชร - จ.นครสวรรค์ - จ.ชัยนาท - จ.สิงห์บุรี - จ.อ่างทอง - อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี กระทั่งวันที่ 11 พ.ค. 67 สามารถจับกุม นายราเมนทร์ และ นายณัฐพล ได้บริเวณด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะรี จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางยาบ้า 2,900,000 เม็ด และ ไอซ์ 150 กิโลกรัม ซุกซ่อนภายในห้องโดยสารด้านท้ายของรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บห 27xx ฉะเชิงเทรา
คดีที่ 4 ตำรวจ บก.สกส., บก.ขส. และ ตำรวจ สภ.ศรีสัชนาลัย ภ.จว.สุโขทัย ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาหลังสืบสวนทราบว่า มีกลุ่มเครือข่ายจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 3 พ.ค. 67 ตำรวจสามารถจับกุม นายเจษฎา และ นายสุรเชษฐ ได้ที่บริเวณริมถนน 101 กม. ที่ 160-159 ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 1,250,000 เม็ด ซุกซ่อนบนเบาะที่นั่งแถวหลังของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน หมายเลขทะเบียน กท 2869 อุตรดิตถ์ อยู่ในกล่องพลาสติกสีดำ 2 กระสอบ, อยู่นอกกล่องพลาสติกสีดำมีผ้าคลุม 2 กระสอบ และที่เก็บสัมภาระท้ายรถยนต์อีก จำนวน 2 กระสอบ รวม 6 กระสอบ ขณะเดียวกันตำรวจอีกชุดสามรถจับกุม นายทศพร ได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่สำ ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
คดีที่ 5 จากการสืบสวนของตำรวจ บก.สกส.,บก.ปส.4 และ บก.ขส.บช.ปส. ทราบว่าจะมีขบวนการลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลาง ไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ ผ่านเส้นทาง จ.นครปฐม – จ.สมุทรสาคร – จ.สมุทรสงคราม – จ.เพชรบุรี – จ.ประจวบคีรีขันธ์ – จ.ชุมพร – จ.นครศรธรรมราช กระทั่งวันที่ 4 พ.ค. 67 สามารถสกัดผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติด และรถสำรวจเส้นทาง 6 คน คือ นายชัยนิตย์, นายวิมล, นายวิริยะ, น.ส.ปัทมา, นางณัฐฐินันท์ และ น.ส.ดอกลั่นทม ได้บริเวณด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่บริเวณช่องวางของหลังรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 4ขฌ 69xx กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,000,000 เม็ด
คดีที่ 6 วันที่ 6 พ.ค. 67 ตำรวจ บก.สกส., ,บก.ขส. ร่วมกับ ตำรวจ ภ.จว.ตาก และ ตชด. จับกุมวัยรุ่นสาว 3 คน หลังร่วมกันลำเลียงยาเสพติดต้นทางจาก จ.เชียงราย เพื่อไปส่งปลายทาง จ.ตาก โดยใช้รถ 2 คัน ลำเลียงผ่านเส้นทาง อ.เมือง จ.เชียงราย - จ,พะเยา - อ.งาว จ.ลำปาง - จ.แพร่ - จ.สุโขทัย - จ.ตาก กระทั่งจับกุม น.ส.นันท์นภัส ได้ที่จุดตรวจ สภ.วังประจบ ต.วังประจบ อ.เมืองตาก จ.ตาก พร้อมรถกระบะ สีดำ หมายเลขทะเบียน กต 61xx ลำพูน ตรวจค้นในรถพบยาบ้า 202,000 เม็ด ส่วน น.ส.มณิภา และ น.ส.อรปรียา ซึ่งทำหน้าที่ขับรถนำทาง/สำรวจเส้นทาง ถูกจับกุมได้ที่ริมถนนสายตาก-สุโขทัย (12) หลัก กม.ที่ 104 - 500 ต.น้ำรึม อ.เมืองตาก จ.ตาก
คดีที่ 7 สืบเนื่องจากวันที่ 7 มี.ค. 67 ตำรวจ สกส. ได้จับกุม นายนภดล พร้อมพวก 3 คน พร้อมไอซ์ 150 กิโลกรัม สืบสวนขยายผลเครือข่ายดังกล่าวจนพบผู้ว่าจ้างนายนภดล ยังคงว่าจ้างให้มีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงราย เพื่อไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เส้นทาง จ.เชียงราย - จ.พะเยา - จ.แพร่ - จ.อุตรดิตถ์ - จ.พิษณุโลก - จ.พิจิตร - จ.นครสวรรค์ กระทั่งวันที่ 7 พ.ค. 67 ตำรวจ สกส. ร่วมกับ บก.ขส. และเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สามารถจับกุม นางศิริรักษ์, น.ส.โยธกา และ นายยุทธโธปกรณ์ ได้ที่บริเวณภายในลานจอดรถปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สาขาไดตาล ต.ทำนบ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางไอซ์ 300 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสีน้ำตาลวางซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะ และห้องโดยสารด้านหลังรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 1ฒณ 59xx กรุงเทพมหานคร
หลังจากนั้นได้ขยายผลจนนำไปสู่การจับกุม นายชิตณรงค์ ขณะมารับยาเสพติด บริเวณลานจอดรถยนต์ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบางปะอิน ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่องกัน สามารถจับกุม นายมงคลธร ขณะมารับยาเสพติดต่อที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สาขาบางปะอิน ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
คดีที่ 8 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ทำการสืบสวนจนพบว่ามีเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดมาพักคอยในพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงได้เฝ้าระวัง กระทั่งวันที่ 4 พ.ค. 67 พบรถยนต์เป้าหมายซึ่งเป็นรถเช่า ขับออกมาจากพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้า อ.พร้าว และมีรถจักรยานยนต์ขับนำทางไปในเส้นทางรองเพื่อหลบด่านตรวจ ในลักษณะบรรทุกสิ่งของมีน้ำหนัก ตำรวจจึงเข้าสกัดแต่รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ได้เร่งความเร็วฝ่าด่านตรวจ ทำให้รถยนต์เสียหลักชนกับเสาไฟฟ้าบริเวณริมถนนสาธารณะ ปากทางบ้านหลวง ต.โหล่งขอด อ.พร้าว และจับกุมผู้ต้องหา 1 คน ตรวจค้นภายในรถพบกระสอบต้องสงสัยสีเหลืองจำนวน 28 กระสอบ ภายในมียาบ้า รวม 5,600,000 เม็ด ถูกวางไว้ด้านที่นั่งหลังคนขับ
คดีที่ 9 สืบเนื่องจากวันที่ 26 มี.ค. 67 ตำรวจได้จับกุม นายนัธธี พร้อมพวกรวม 7 คน ยึดยาบ้า 7,000,000 เม็ด และขยายผลยังพบว่ามีกลุ่มผู้ร่วมลำเลียงยาเสพติดในเครือข่ายนี้ใช้รถกระบะตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน 3ฒย-58xx กทม. พร้อมรถกระบะตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน 2ฒก-20xx กรุงเทพมหานคร และรถกระบะ หมายเลขทะเบียน ขง 71xx นครศรีธรรมราช จึงได้เฝ้าติดตามเรื่อยมา กระทั่งในวันที่ 10 พ.ค. 67 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบว่ารถเป้าหมายได้เดินทางไป จ.นครปฐม ในลักษณะเป็นขบวนขับเข้ามาที่บ้านเลขที่ 81/233 ม.6 หมู่บ้านฟ้าปิยรมย์ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อช่วยกันลำเลียงสิ่งของต้องสงสัยไปไว้ในบ้าน ก่อนจะขับรถมาจอดรถที่รีสอร์ต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น และคุมตัวไปตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว พบเป็นยาบ้า 5,100,000 เม็ด, ไอซ์ 122 กิโลกรัม และคีตามีน 20 กิโลกรัม
คดีที่ 10 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.3 ได้สืบสวนพบว่าเครือข่ายยาเสพติดได้ลำเลียงยามาพักคอยในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ตอนของประเทศ กระทั่งวันที่ 30 เม.ย.67 พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์เป้าหมายในพื้นที่ จ.สุโขทัย ตำรวจจึงติดตามมาในเส้นทางรองใน อ.เถิน จ.ลำปาง มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง จ.สุโขทัย พบรถยนต์เป้าหมายมีการบรรทุกของสิ่งของที่มีน้ำหนักมาด้วย และขับในลักษณะช้าบ้าง เร็วบ้าง จนมาถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมและตรวจค้น พบยาบ้า 1,988,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณเบาะผู้โดยสารด้านหลัง และบริเวณที่วางสัมภาระตอนท้าย
คดีที่ 11 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ กระทั่งวันที่ 7 พ.ค. 67 พบรถยนต์ที่เฝ้าระวัง 2 คัน ขับขี่ในลักษณะรถนำและรถตาม จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ แต่รถยนต์ที่ทำหน้าที่ขับนำสามารถหลบหนีไปได้ ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ขับรถลำเลียงยาเสพติดได้ ตรวจค้นรถพบยาบ้า 296,000 เม็ด
คดีที่ 12 สืบเนื่องจากวันที่ 5 พ.ย. 66 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ร่วมกับตำรวจทางหลวง, ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 2,540,000 เม็ด ได้ที่บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 229 อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น จึงสืบสวนขยายผล จนพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเป้าหมายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน จ.บึงกาฬ ไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ตอนในประเทศ โดยใช้รถกระบะ หมายเลขทะเบียน ผผ 74xx อุดรธานี กระทั่งวันที่ 2 พ.ค. 67 พบรถเป้าหมายขับไปตามถนนมิตรภาพ ในเขตพื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น มุ่งหน้า อ.เมืองขอนแก่น และสามารถเข้าสกัดจับกุมได้บริเวณสามแยกจุดสัญญาณไฟจราจร แยกกัลปพฤกษ์ หน้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ อ.เมืองขอนแก่น พบนายพรพจน์ เป็นผู้ขับขี่ และนายนัฐพงษ์ นั่งข้างคนขับ ตรวจค้นภายในรถพบวัตถุถูกใส่ถุงดำวางไว้ที่นั่งหลังคนขับเต็มพื้นที่ ตรวจสอบเป็นยาบ้ารวมจำนวน 2,000,000 เม็ด
คดีที่ 13 สืบเนื่องจากการจับกุมผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 26 มี.ค.67 บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ พร้อมยาบ้า 4,000,000 เม็ด ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 ได้สืบสวนขยายผลและตรวจสอบตามเส้นทางที่เฝ้าระวัง พบรถเป้าหมายต้องสงสัย กระทั่งวันที่ 9 พ.ค. 67 พบรถคันดังกล่าวขับเข้าไปในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ก่อนจะขับออกมาโดยมีรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 5กฬ 6401 กทม. ขับตาม ตั้งแต่ จ.บึงกาฬ ผ่าน จ.หนองบัวลำภู, ขอนแก่น, ชัยภูมิ เรื่อยมาจนรถได้ขับเข้าไปในบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถนนสุระนารายณ์ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ตำรวจจึงสกัดจับกุม ซึ่งมีนายณัฐพลเป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.ณัฐภัค โดยสารมาด้วย ภายในรถพบไอซ์ 50 ถุง น้ำหนัก 50 กิโลกรัม และ คีตามีน 50 ถุง น้ำหนัก 50 กิโลกรัม ถูกวางอยู่ด้านท้ายรถยนต์
ขณะที่รถยนต์เอนกประสงค์ หมายเลขทะเบียน 9กธ 3495 กรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่นำทางและสำรวจเส้นทาง ได้ขับหลบหนีตำรวจจึงจัดกำลังติดตาม กระทั่งพบรถเกิดพลิกคว่ำบริเวณ กม.123+800 ต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จึงเข้าควบคุมตัว นายฐิติธรรม ผู้ขับขี่ พร้อมด้วย น.ส.สิริพร สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด สารภาพว่ารับยาเสพติดมาจาก อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เพื่อไปส่งปลายทาง จ.สระบุรี ได้ค่าจ้างประมาณ 600,000 บาท
คดีที่ 14 ตำรวจ กก.3 (ส่วนหน้าท่าเรือกรุงเทพ) บก.ปส.1 สืบสวนพบว่าจะมีการส่งยาเสพติดที่ซุกซ่อนในสินค้าชนิดต่าง ๆ ไปยังต่างประเทศ จึงประสานงานกับบริษัทขนส่งพัสดุไปต่างประเทศ กระทั่งวันที่ 10 พ.ค. 67 ได้รับแจ้งจากบริษัทขนส่งเอกชน เขตบางนา ว่ามีพัสดุต้องสงสัยตรงตามที่รับแจ้งไว้ ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบพบกล่องพัสดุ 36 กล่อง ปลายทางส่งออกประเทศออสเตรเลีย เมื่อเปิดกล่องตรวจสอบพบถุงบรรจุงาคั่วเม็ด ถูกซีลด้วยระบบสุญญากาศ ตรวจสอบภายในถุงพบเป็นเฮโรอีนและไอซ์ซุกซ่อนอยู่ โดยไอซ์น้ำหนักรวม 300 กิโลกรัม และเฮโรอีนน้ำ หนัก 80 กิโลกรัม ต่อมาตำรวจได้ขยายผลจนทราบชื่อผู้นำส่งพัสดุคือ น.ส.กัญญณัช จึงติดตามไปยังที่พักพบหญิงลักษณะรูปพรรณคล้ายผู้ส่งพัสดุ ขับรถยนต์ไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่าน พระราม 3 ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม
คดีที่ 15 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 สืบสวนพบว่ามีเครือข่ายนักค้ายาเสพติดต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยมีพฤติกรรมใช้ประเทศไทยเป็นที่ส่งออกยาเสพติดไปยังต่างประเทศ และนำบางส่วนมาจำหน่ายให้กลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศ โดยนำยาเสพติดมาจากกลุ่มผู้ค้าทางภาคเหนือ กระทั่งวันที่ 2 พ.ค. 67 ตำรวจได้จับกุมนายชัยวัฒน์ พร้อมไอซ์ 20 กิโลกรัม ได้บริเวณปากซอยหน้าธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาสาธุประดิษฐ์ ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. สืบสวนพบเตรียมนำยาเสพติดจำนวนนี้ส่งออกไปต่างประเทศ เวลาต่อเนื่องกันตำรวจได้ตามจับกุม นายทามัง บีร์ บาอาดูร์ สัญชาติเนปาล และ นายนพชัย เพื่อร่วมขบวนการได้บริเวณลานจอดรถ หน้าร้านสะดวกซื้อ ซ.ลาดพร้าว 130 แยก 4 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จากนั้นคุมตัวไปตรวจค้นที่พักอาศัยสามารถตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ 3 รายการ คือ รถยนต์ 1 คัน, เงินสด 12,000 บาท และทองรูปพรรณ 11 รายการ
ทั้งนี้ สำหรับการปราบปรามยาเสพติดในห้วง 7 เดือน ที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1 ต.ค. 66 – 15 พ.ค. 67 บช.ปส. สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 811 คดี ผู้ต้องหา 1,152 คน ของกลางเป็นยาบ้า 261,626,536 เม็ด, ไอซ์ 5,857 กิโลกรัม, เฮโรอีน 342 กิโลกรัม, คีตามีน 2,041 กิโลกรัม และ ยาอี 1,407 เม็ด โดยยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบมูลค่าประมาณ 1,681 ล้านบาท