แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างชื่อ ตร. หลอกสูญเงินหลายล้านบาท

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างชื่อ ตร. หลอกสูญเงินหลายล้านบาท

View icon 146
วันที่ 16 พ.ค. 2567 | 14.35 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างชื่อ ปลอมบัตร นายตำรวจระดับสารวัตรและรองสารวัตร งานสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น หลอกประชาชน สูญเงินหลายล้านบาท

วันนี้ (16 พ.ค.67)   พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้โพสต์เฟซบุ๊ก  สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเตือนประชาชน หลังจากแก็งคอลเซนเตอร์ได้อ้างชื่อตำรวจในสังกัด หลอกประชาชนจนทำให้มีผู้เสียหายสูญเงินรวมหลายล้าน

พ.ต.อ. ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า การประชาสัมพันธ์ กรณีดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องจริง เพราะข้าราชการตำรวจ ที่เป็นนายตำรวจ ระดับสารวัตรและผู้กองในกลุ่มงานสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ถูกแอบอ้างเอาชื่อ ไปหลอกลวงประชาชน จำนวน 3 นาย คือ พ.ต.ท.สุวัฒชัย ศรีวิชา สว.สืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น และ ร.ต.อ.คนาธิป ภูสมตา รองสว.สืบสวน ร.ต.อ.จักกฤษ ชินบุตร รอง สว.สืบสวน ทั้งหมดถูกแอบอ้างชื่อ โทรศัพท์ไปหาผู้เสียหาย 3 ราย ที่จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดปัตตานี  โดยใช้กลอุบายในแบบเดียวกันทั้ง 3 รายว่า เป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท. ตรวจเช็กพบว่ามีเงินจากขบวนการค้ายาเสพติด โอนเข้าบัญชีธนาคาร เป็นการฟอกเงิน และเจ้าของบัญชีจะมีความผิด ถ้าไม่อยากมีความผิดให้คุยกับนายตำรวจที่รับผิดชอบ

ซึ่งในรายแรกที่เป็นผู้เสียหายชาวจังหวัดบึงกาฬ มีญาติที่เป็นเพื่อนกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่นที่ทำงานกับ พ.ต.ท.สุวัฒชัย ศรีวิชา สว.สส.สภ.เมืองขอนแก่น โดยผู้เสียหายรับสายจากมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ยศ.พันตำรวจโทรว่า มีเงินจากการค้ายาเสพติดโอนเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ผู้เสียหายได้พูดคุยจนมิจฉาชีพ แสดงตัวและวิดีโอคอล มาคุยด้วย พร้อมส่งบัตรข้าราชการตำรวจมาให้ผู้เสียหายทางไลน์ ผู้เสียหายจึงแคปหน้าจอขณะวิดีโอคอล และบันทึกภาพบัตรข้าราชการตำรวจ ส่งมาให้ญาติที่เป็นเพื่อนกับตำรวจชุดสืบสวน

จากนั้นจึงได้มีการสอบถามมายัง พ.ต.ท.สุวัฒชัย ศรีวิชา สว.สส.สภ.เมืองขอนแก่น  ความจริงจึงถูกเปิดเผยว่า  ชื่อ สกุล ถูกต้องตรงกัน แต่หน้าตาที่แคปหน้าจอมาได้นั้นไม่ใช่ จากนั้นจึงมีการตรวจสอบพบว่า เลขบัตรประชาชน 13 หลักก็ไม่ถูกต้อง เครื่องแบบที่สวมใส่ขณะวิดีโอคอลกับผู้เสียหายก็ไม่ใช่นายตำรวจ ยศ.พันตำรวจโท เพราะสวมเครื่องแบบยศ ร.ต.อ.เท่านั้น  จึงให้ตำรวจชุดสืบสวน แจ้งกลับไปยังผู้เสียหายว่า อย่าหลงเชื่อและอย่าโอนเงินให้เด็ดขาด  แต่กว่าจะกระจ่าง ผู้เสียหายก็โอนเงินให้มิจฉาชีพไปแล้วหลายแสนบาท

นายตำรวจทั้ง 3 นาย ถูกแอบอ้างเอาชื่อ สกุลไปหลอกลวงประชาชน ทำให้ประชาชนเสียเงินรายละหลายแสนและเสียเงินล้าน แม้จะเป็นการปลอมบัตรปลอมเอกสาร ซึ่งเมื่อเราได้ข้อมูลมาก็ได้ทำการตรวจสอบ แต่ไม่พบตัวตนตามที่อยู่ จึงยังไม่แน่ใจว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้อยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ  แต่ได้มีการประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน  และความผิดในข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน

พ.ต.ท.สุวัฒชัย ศรีวิชา สว.สืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า เจอมิจฉาชีพแอบอ้างใช้ชื่อ สกุล ไปหลอกลวงชาวบ้านในจังหวัดบึงกาฬแล้วรายแรก คิดว่าเรื่องจะหายเงียบ แต่ปรากฏว่า มีผู้เสียหายซึ่งเป็น ดร.อดีตข้าราชการครู อยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เดินทางมาพบที่งานสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น มาแสดงตัวต่อหน้า พร้อมกับบอกว่า มารับเงินที่ค้ำประกันตัวตำรวจที่ถูกย้ายเข้าไปที่ สตช.จำนวนล้านกว่าบาทคืน  จึงงงเป็นไก่ตาแตก เพราะไม่ทราบเรื่อง จากการสอบถาม ผู้เสียหายทราบว่า ถูกมิจฉาชีพโทรหาโดยบอกว่ามีเงินจากการพวกค้ายาเสพติดโอนเข้าบัญชีจำนวนมาก หากไม่อยากมีความผิด ต้องจ่ายเงินให้กับ สตช. และมีการพูดคุยกันมาอย่างต่อเนื่องประมาณ 1 อาทิตย์ มิจฉาชีพจึงบอกว่า มีนายตำรวจ 2 คนที่รู้เรื่องนี้ถูกย้ายเข้าไปประจำที่ สตช. คือ ร.ต.อ.คนาธิป ภูสมตา รองสว.สืบสวน ร.ต.อ.จักกฤษ ชินบุตร รองสว.สืบสวน หากไม่อยากมีความผิด และไม่อยากมีส่วนพัวพันกับกลุ่มค้ายาเสพติดและเพื่อช่วย นายตำรวจ 2 นาย กลับมาทำงานที่ สภ.เมืองขอนแก่น ต้องจ่ายเงินให้ สตช. มิจฉาชีพยังกำชับกับผู้เสียหายว่า อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร เดียวเรื่องจะแดง จะมีความผิด จะติดคุก  แต่ไม่ต้องห่วง เงินที่ช่วยค้ำประกัน นายตำรวจ 2 นาย จะได้คืนทุกบาท ให้มารับคืนที่งานสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อนายตำรวจ 2 นาย กลับมาทำงานตามปกติแล้ว