เปิดสถิติ 2 ปี นิสิต ม.ดัง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก 600 กว่าราย อึ้ง! บางคนให้แก้ผ้า-แบล็กเมล์ เสียหายมากสุดประมาณ 1 ล้านบาท
จากที่ นักศึกษามหาวิทยาลัยดังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงเรียกค่าไถ่ไปกว่า 200 ราย ล่าสุด วันนี้ (11 ต.ค.67) ที่ สภ.เขวาใหญ่ จ.มหาสารคาม พบว่ายังมีนิสิตของมหาวิทยาลัยประมาณ 5 ราย เข้าพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินดคีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
โดยนิสิตคนหนึ่ง เผยว่า ตนได้รับการติดต่อจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ตว่าโดนสวมสิทธิ์ อาจผิดกฎหมายได้ จากนั้นก็ให้โทรไปหาเจ้าหน้าที่ และก็ให้ทำการโอนเงินไปเพื่อทำการตรวจสอบ ทุกรายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะบอกเลขบัตรประชาชน และแจ้งว่า มีคนไปเปิดซิมที่จังหวัดตราด จากนั้นให้วิดีโอคอลกับตำรวจ และก็ให้เราไปหลอกผู้ปกครองให้โอนเงินเป็นค่ากิจกรรม ค่าต่าง ๆ จำนวน 30,000 บาทเพื่อไปตรวจสอบ หลังตรวจสอบเสร็จจะโอนเงินกลับคืนมาให้
ส่วนนิสิตอีกราย มีผู้ปกครองมาจากต่างจังหวัดก็ตกใจเมื่อทราบว่า ลูกสาวโดนหลอกเงินไปกว่า 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บของลูกสาวเอง แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ยังไม่พอ ยังบอกให้ลูกสาวโกหกด้วยการทักให้พี่ชายโอนเงินไปให้อีกเป็นค่าเทอม ตนก็รีบไปกู้เงินรายวันมาโอนให้ลูกทั้งหมด 7 หมื่นกว่าบาท จนตัวเองไม่มีเงินติดตัวในตอนนี้
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ บึงบัว สวป.สภ.เขวาใหญ่ กล่าวว่า ที่ได้รับแจ้ง และรวบรวมมีหลายเคสมาก โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมามีข้อมูลและเลขบัตรประชาชนของนักศึกษาทุกราย ที่น่าสงสารคือให้น้องเขาเปลือยกาย เพื่อเป็นการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล แล้วก็เอาภาพเปลือยมาแบล็กเมล จากนั้นก็บังคับให้โอนเงินไปตรวจสอบ โดยโอนเงินไปรอบแรก 7,000 บาท และบังคับให้โทรไปบอกผู้ปกครองโอนเงินมาให้ตรวจสอบเพิ่มอีก 4 หมื่นบาท รายนี้หมดไปกว่า 47,000 บาท
ด้าน พ.ต.อ.พงษ์ศิริ พลเยี่ยม ผกก.สภ.เขวาใหญ่มหาสารคาม เปิดเผยว่า ทางสภ.เขวาใหญ่ มีสถิติที่รับแจ้งความจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ส่วนใหญ่เป็นนิสิตนักศึกษา จะไม่มีชาวบ้านหรือคนสูงอายุ เพราะทราบและรู้ถึงกลลวงของแก๊งเหล่านี้ โดยสถิติตั้งแต่ 1 มี.ค. 65 ถึง 11 ต.ค.67 เป็นนิสิตมาแจ้งความทั้งสิ้น 653 ราย ยอดเงินค่าเสียหาย 9.8 ล้านเศษ แต่ถ้าช่วง 25 ก.ย.- 11 ต.ค.67 ยอดมาแจ้งความประมาณ 60 ราย ยอดเงินเสียหายประมาณ 2.2 ล้านบาท เคสที่มีผู้เสียหายจำนวนมากจะเกิดจากการข่มขู่ให้เกิดความกลัวว่าเรามีความผิด โดนมากสุดก็ประมาณ 1 ล้านบาท เช่น กรณีนักศึกษาทาสีคออ้างว่าถูกรัด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยมาได้ ก็ยังโอนเงินไปให้เขาอีก และอีกรายบอกว่าตนเองโดนจับไว้ในป่า เมื่อเอารถไปจอดก็หาตัวไม่เจอ จนต้องหลอกว่าพ่อเขานำเงินมาแล้วให้ออกมาเอา น้องนักศึกษาคนนั้นจึงออกมาเอาเงิน
ส่วนการหลอกลวงให้โอนเงินทำงานพิเศษ จะเป็นเหตุอันดับ 2 แต่ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีนิสิตโดนหลอกจำนวนมาก ทำให้ สภ.เขวาใหญ่ ได้ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยจัดการอบรมหลายรอบ และยังให้มีการเผยแพร่ในเพจในทุกการเผยแพร่ของทางมหาวิทยาลัย และยังนัดจะไปให้ความรู้อีกหลังสอบ ตอนนี้ก็ได้แนะนำให้นิสิตทั้งหลายใช้แอพ whocall เพื่อเป็นการตรวจสอบเบอร์โทรเบื้องต้น