วางแผนมาดี มิจฉาชีพหลอกเหยื่อ 3 คนพร้อมกัน เพื่อโทรศัพท์เครื่องเดียว

วางแผนมาดี มิจฉาชีพหลอกเหยื่อ 3 คนพร้อมกัน เพื่อโทรศัพท์เครื่องเดียว

View icon 56
วันที่ 16 พ.ค. 2567 | 15.52 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สาวร้องสายไหมต้องรอด ถูกมิจฉาชีพหลอกซื้อไอโฟน ใช้บัญชีเหยื่ออีกรายโอนเงินให้ 3 หมื่นกว่าบาท สุดท้ายตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง

นี่เป็นมิจฉาชีพในโลกออนไลน์อีกแบบหนึ่ง ที่หลอกเหยื่อ 3 คน ในคราวเดียวกัน โดยไปหลอกคนที่ประกาศขายรถจักรยานยนต์ ทางเฟซบุ๊กว่าจะซื้อสินค้า แล้วขอเอกสารภาพถ่ายต่างๆ อ้างจะซื้อในราคา 54,000 บาท จากนั้นนำเอกสารหลักฐานที่ได้ไปติดต่อทางออนไลน์ ร้านรับซื้อรถจักรยานยนต์มือสอง หลอกว่าจะขายให้ในราคา 34,500 บาท ในขณะเดียวกันไปติดต่อร้านขายโทรศัพท์มือถือทางออนไลน์ เพื่อขอซื้อโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟน 15 มือสอง ตกลงราคากันที่ 34,500 บาท แล้วขอเลขบัญชีธนาคารจากแม่ค้าขายโทรศัพท์มือถือ เพื่อโอนเงินให้

จากนั้นก็ให้พ่อค้ารับซื้อรถจักรยานยนต์มือสอง ส่งคนไปรับมอเตอร์ไซค์ที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยคนไปรับมอเตอร์ไซค์ก็ถ่ายภาพมอเตอร์ไซค์ส่งกลับให้คนซื้อ เพื่อยืนยันว่าไม่ถูกหลอกแน่นอน จังหวะนั้นตัวมิจฉาชีพก็ส่งหมายเลขบัญชีของแม่ค้าขายโทรศัพท์ไปให้พ่อค้าซื้อรถมือสอง อ้างว่าเป็นบัญชีแฟนของตัวเอง ให้โอนเงินค่ารถจักรยานยนต์เข้ามาได้เลย

พ่อค้ารับซื้อรถมือสองจึงโอนเงินเข้าบัญชีของแม่ค้าขายมือถือ จากนั้นแม่ค้าขายมือถือก็ให้ขนส่งนำโทรศัพท์ไปส่งให้มิจฉาชีพย่านบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เมื่อมิจฉาชีพได้รับโทรศัพท์ ก็ออกจากไลน์ที่ใช้ติดต่อ และบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของแม่ค้าขายมือถือ บล็อกไลน์ที่ใช้พูดคุยกับพ่อค้ารับซื้อรถจักรยานยนต์มือสอง และคนที่จะขายรถจักรยานยนต์

งานนี้ มิจฉาชีพหลอกทั้งสามคน เพื่อโทรศัพท์มือถือ iPhone 15 มือสองเครื่องเดียว ตอนนี้ทางพ่อค้าขายมอเตอร์ไซค์ ก็เลยขอให้ทางแม่ค้าขายมือถือคืนเงินให้

ล่าสุดวันนี้ (16 พ.ค.67) น.ส.นภสร อายุ 23 ปี แม่ค้าขายโทรศัพท์มือถือ เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกหลอกซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 15 โดยมิจฉาชีพหลอกผู้อื่นให้โอนเงินให้ ซึ่ง น.ส.นภสร เล่าว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา มีลูกค้าทักมาบอกว่าสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone 15 pro max แต่มีงบเพียงแค่ 35,000 บาท ซึ่งตนก็แนะนำไปว่าจำนวนเงินดังกล่าวไม่สามารถซื้อตามสเปกที่ต้องการได้ จึงได้แนะนำยี่ห้อ iPhone 15 pro ขนาด 128 GB มือสองไป โดยเครื่องดังกล่าวมีราคา 34,500 บาท ก่อนที่จะเงียบหายไป

วันต่อมาลูกค้าคนเดิมทักกลับมา พร้อมกับบอกว่าจะขอซื้อโทรศัพท์ตามที่ตนแนะนำไป ขอให้เก็บเงินปลายทาง ซึ่งตนก็ตอบตกลง แต่มีเงื่อนไขลูกค้าต้องโอนค่ามัดจำมาก่อน 1,000 บาท ก่อนจะเงียบหายไป และส่งสลิปยอดโอนเงินเต็มจำนวนมาให้ตน หลังจากนั้นตนก็ได้แพ็กสินค้า พร้อมเรียกไรเดอร์ให้ไปส่งโทรศัพท์ที่บางบัวทอง ผ่านไปไม่ถึง 3 ชั่วโมง มีชายคนหนึ่งชื่อว่า นายสุทัศน์ ติดต่อมาบอกว่า ตนได้ซื้อรถจักรยานยนต์มือสองในราคา 34,500 บาท โดยโอนเงินเข้ามาที่บัญชีของตน ซึ่งตนก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพูดคุยกับนายสุทัศน์ ทำให้รู้ว่าพวกตนเป็นผู้เสียหาย

โดยวันต่อมานายสุทัศน์ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับตนในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งตนก็ได้แย้ง เพราะว่าตนก็เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน และได้ลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ไว้ที่ สน.สายไหม ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง บอกให้ตนไปไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดหรือหาหลักฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมมาต่อสู้คดีเอง

ด้านนายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า จะประสานไปยัง สภ.บางบัวทอง ให้พิจารณาเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะน.ส.นภสร ก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน รวมทั้งจะนำข้อมูลไปมอบให้กับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อติดตามจับกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะพฤติการณ์ของคนร้ายค่อนข้างเตรียมการมาอย่างดี มีการวางแผน และเชื่อว่าน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง