ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มโพสต์คลิปเตือนภัย เดินอยู่กลางกรุง เจอคนปรี่ต่อยปากฉีก พอไปแจ้งความ ตำรวจถาม "ทำไมไม่สู้กลับ"
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะผู้เสียหายเดินอยู่บนทางเท้า จู่ ๆ ชายที่เดินสวนมาปรี่เข้าต่อยที่ใบหน้าอย่างจัง จนผู้เสียหายล้มกองกับพื้น ส่วนคนก่อเหตุก็เดินหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คลิปนี้ หนุ่มผู้เสียหายนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุว่า "กำลังเดินออกจากคอนโดฯ ไปซื้อผักทำกับข้าว มีชายอายุราว ๆ 20-40 ปี เดินสวนมา แล้วเข้ามาชกหน้าเต็มแรงจนผมล้ม เขาหันมายิ้มให้ แล้วเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมสับสนมากว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนเกิดเหตุ เดินไม่ได้มองใครเลย ก้มมองพื้นเป็นส่วนใหญ่ เลยไม่ได้สังเกตว่าจะมีคนเข้ามาทำร้าย เนื่องจากคิดว่าสถานที่กับเวลานั้นปลอดภัยดี" เหตุเกิดบนทางเท้าย่านภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
ทีมข่าวสอบถามหนุ่มผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 20.00 น. คืนที่ผ่านมา หลังโดนชกปากฉีกต้องเย็บ 3 เข็ม และปวดที่กระดูกใบหน้า รปภ. คอนโดฯ ช่วยโทรแจ้ง 191 แต่ตำรวจบอกให้ไปเอาใบรับรองแพทย์มาแจ้งความ ก็ไปโรงพยาบาล ก่อนช่วง 23.00 น. เดินทางไปแจ้งความที่ สน.ภาษีเจริญ แต่ก็ต้องรู้สึกผิดหวัง และหดหู่มากกับพนักงานสอบสวน มีการเปิดกล้องวงจรปิดจุดเกิดเหตุ เห็นชัดว่าก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้พูดคุยกับ รปภ. หน้าคอนโดฯ ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงพูดกับตำรวจว่า "เราควรไปสอบถาม รปภ. ท่านนี้ไหม" แต่ตำรวจตอบว่า "มันแค่เดินไปขอบุหรี่ แล้วเขาไม่ให้ ไม่รู้จักกันหรอก อย่าไปยุ่งกับเขาเลย"
จากนั้นตนให้ข้อมูลว่า คนร้ายแต่งตัวดี ใส่รองเท้าผ้าใบ แต่ตำรวจกลับบอกว่า "คนร้ายน่าจะเป็นคนบ้า ถึงจับไปแล้ว เจอบัตรคนบ้า ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี" และตำรวจโทษตนว่า "ทำไมไม่ต่อยกลับไปเลย ถ้าเป็นตำรวจ ตำรวจต่อยกลับไปแล้ว แล้วลากตัวมันมาเลย" พอฟังแล้วก็คิดในใจว่า ถ้าคนร้ายมีอาวุธจะทำอย่างไร และมันไม่ใช่หน้าที่ของตน ไม่เช่นนั้นจะมีตำรวจไปทำไม ถ้าให้เหยื่อจัดการคนร้ายเอง
นอกจากนี้ กล้องเห็นคนร้ายชัดเจนมาก แต่ตำรวจกลับบอกว่า "จับไม่ได้หรอก มันแค่คนบ้า และไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นใคร เพราะไม่รู้ชื่ออยู่ดี" แต่ที่ตนเห็นหลักฐานวงจรปิดล่าสุด คนร้ายยังเดินผ่านหน้าคอนโดฯ แล้วเต้นคล้ายคนหลอนยา ไม่เหมือนคนป่วยจิตเวช แต่หากป่วยจริง ก็ควรเร่งจับกุม เพราะอันตรายกับคนอื่นมาก
ผู้เสียหาย ยอมรับว่า รู้สึกหมดหวังกับตำรวจที่นี่ และรู้สึกว่า รปภ. คอนโดฯ ยังให้ความช่วยเหลือดีกว่าอีก หวังว่าการทำงานของตำรวจจะเป็นการช่วยเหลือดูแลเหยื่อ ไม่ใช่การโทษเหยื่ออย่างที่ตนเผชิญมา
