เช้านี้ที่หมอชิต - มูลนิธิปวีณาฯ พาหนูน้อยอายุ 2 ขวบ พร้อมแม่และยาย ไปรักษาที่โรงพยาบาล หลังถูกหญิงใจเหี้ยม ใช้น้ำมันร้อน ๆ ในหม้อทอดไก่ สาดใส่จนเด็กเป็นแผลพุพองเหวอะหวะทั่วใบหน้า เหตุเพราะแค้นที่ทวงค่าเช่าห้องพักไม่ได้
ช่วงเที่ยงเมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาเด็กหญิงอายุ 2 ขวบ พร้อมแม่อายุ 25 ปี และยายอายุ 57 ปี ซึ่งถูกน้ำมันร้อน ๆ ราดตามใบหน้า ลำคอ หน้าอก แผ่นหลัง และตามลำตัว ส่วนยายบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนซ้าย ทั้งหมดถูกหญิงสาวที่มาทวงค่าห้องเช่า สาดน้ำมันร้อน ๆ ใส่ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์ให้แอดมิดทั้งแม่และเด็ก เพราะอาการค่อนข้างสาหัส
โดยหนูน้อยร้องไห้ เพราะทรมานด้วยความเจ็บปวด จากบาดแผลพุพองทั่วใบหน้า และลำคอ แผลบางส่วนลอกออกจนเห็นผิวหนังชั้นใน ส่วนผู้เป็นแม่ มีแผลพุพองที่ลำคอ แผ่นหลัง หน้าอก เต้านม และมือ ต้องใช้ผ้าพันแผลไว้ ขณะที่ยายของเด็กถูกน้ำมันกระเด็นใส่ที่แขนซ้ายเป็นรอยแดง
แม่ของเด็กหญิงเล่าทั้งน้ำตาว่า เหตุเกิดช่วงเที่ยงวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนเองได้พาลูกสาวไปหายายที่ห้องเช่าย่านสาธร จากนั้นพากันนั่งกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งริมทางในซอย จู่ ๆ นางป๊อบ (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ผู้ดูแลห้องเช่าที่ยายเช่าอยู่ ผ่านมาเห็น ก่อนปรี่เข้ามาทวงค่าเช่าห้องที่ค้างอยู่ 20,000 กว่าบาท ตนอธิบายกับนางป๊อบว่า โอนเงินจ่ายให้เจ้าของห้องไปแล้ว 14,000 กว่าบาท เหลือค้างอีกประมาณ 8,000 บาท ซึ่งเจ้าของห้องก็อนุญาตให้จ่ายตอนสิ้นเดือนได้ โดยมีข้อความในไลน์ที่คุยกันเป็นหลักฐาน
แต่นางป๊อบไม่เชื่อ พยายามจะแย่งโทรศัพท์มือถือของตนไปดู จึงใช้มือตีไปที่มือนางป๊อบ ก่อนที่นางป๊อบจะหันไปคว้าหม้อทอดไก่ของร้านอาหารตามสั่ง ที่มีน้ำมันร้อน ๆ มาสาดใส่ตน ขณะนั้นลูกสาววัย 2 ขวบ ยืนเกาะขาอยู่ และยายก็ยืนอยู่ข้าง ๆ ทำให้ถูกน้ำมันสาดใส่ทั้ง 3 คน พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนนางป๊อบอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แพทย์ได้ให้การรักษาแม่ ลูก และยาย แต่ทางโรงพยาบาลบอกว่าห้องปลอดเชื้อเต็ม และห้องพิเศษก็เต็ม หากต้องอยู่ห้องรวมก็เสี่ยงกับการติดเชื้อ ทางครอบครัวไม่รู้จะทำอย่างไร สามีจึงมารับกลับ พอเห็นสภาพลูกน้อยแล้วสงสารจับใจ
หลังเกิดเหตุ นางป๊อบติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย แต่ตนไม่ยอม จึงแจ้งความที่ สน.ยานนาวา เพื่อเอาผิดให้ถึงที่สุด เพราะจิตใจโหดเหี้ยมเกินมนุษย์ ทำได้แม้กระทั่งเด็กตัวเล็ก ๆ บาดแผลทางกายอาจรักษาให้หายได้ แต่บาดแผลทางใจ คงจะไม่มีวันจางหาย
เบื้องต้น แพทย์โรงพยาบาลยันฮีตรวจร่างกาย 2 แม่ลูก พบว่าเด็กสูญเสียชั้นผิวหนังไปค่อนข้างมาก และสูญเสียเกลือแร่ ต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิด
ส่วนคดีความ ทางมูลนิธิปวีณาจะประสาน พันตำรวจเอก รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้บาดเจ็บ และติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
