พลังบุญรักษาโรค ข้องใจ อ.น้องหญิงทำไมรักษาหาย หมอประชาผ่าตัดสมองตอบด้วย 2 ทฤษฎี Placebo effect ยาหลอก กับ Pain Paradigm ศาสตร์สะกดจิตใจ พูดชี้นำให้คิดว่าหาย ความเจ็บปวดลดลง ซึ่งการทำแบบนี้มีผลกับสารสื่อประสาท งมงายกระทบจิตใจชาวพุทธแต่ก็รักษาฟรี ต่างจากบางลัทธิที่ให้บริจาคเพื่อนำไปซื้อที่ดินให้ตัวเอง
อาจารย์น้องหญิง คลื่นพลังบุญรักษาโรค แฟนเพจขอให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์ นพ. ประชา กัญญาประสิทธิ์ แพทย์เชี่ยวชาญด้าน ศัลยกรรมประสาท เปิดเผยผ่านเพจหมอประชาผ่าตัดสมอง กรณีมีคนไปรักษากับน้องหญิงแล้วหาย? ซึ่งหมอประชาได้อธิบายถึงความเป็นไปได้จาก 2 ทฤษฎี
ทฤษฎีแรก พาซิโบ เอฟเฟกซ์ (Placebo effect ) หรือปฏิกิริยา ยาหลอก อธิบายง่าย ๆ คึอ โรคบางโรคไม่รักษาก็หายเองอยู่แล้ว เช่น เอาเม็ดแป้งไปให้คนไข้กิน บอกว่าเป็นยากินแบล้วจะหายทั้งที่เป็นเม็ดแป้ง แต่ผู้ป่วยเชื่อว่าเป็นยา กินเข้าไปแล้วจึงรู้สึกว่าหาย มีได้ 20-30%
ทฤษฎีที่ 2 เป็นศาสตร์การรักษาเรียกว่า “เพน พาราดาม” (Pain Paradigm) ใช้จิตใจหรือกึ่ง ๆ การสะกดจิต ในคลิปที่ระบุว่าเป็นการรักษา จะให้คนไข้พูดว่าตัวเองหาย เป็นการสะกดจิตอย่างหนึ่ง ในคลิปอ้างถึงพลังที่ใช้ คือ พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ในการรักษาให้คนไข้พูดว่าหาย ให้คนไข้รู้สึกดี ให้รู้สึกว่าหาย ยกตัวอย่างคนปวดหัวไหล่ ให้ระดับความเจ็บปวด 5 เต็ม 10 คนที่ศรัทธาเมื่อพูดว่าตัวเองหายจากการชี้นำของน้องหญิง ระดับความเจ็บปวดจึงลดลง คนที่ไม่เชื่อความปวดอยู่ที่ระดับเท่าเดิมไม่ลดลง เพราะไม่เชื่อว่าจะหาย
หมอประชา อธิบายด้วยว่า การทดลองนี้ชี้ให้เห็นว่า เมื่อคุณเชื่อ ไม่ว่าจะมีพลังจริงหรือไม่มีพลังจากพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ก็แล้วแต่ คำพูดที่บอกว่าหายจะไปสะกดจิตใจ ให้คิดว่าหาย ความเจ็บปวดลดลง ซึ่งการทำแบบนี้มีผลกับสารสื่อประสาท ที่ไปลดหรือตัดกลไกของความเจ็บปวด ความเจ็บปวดจึงลดลง เพราะเขาตัดสินจากความรู้สึก คนที่เชื่อว่าหาย จึงอาการดีขึ้น คนที่ไม่เชื่อว่าหายความเจ็บปวดก็เหลือเท่าเดิม เขาถึงบอกว่าคนมีบุญเท่านั้นที่จะหาย คำว่ามีบุญคือเชื่อ เพราะโดยธรรมชาติคนเราจะเข้าข้างตัวเองเชื่อว่าเรามีบุญ เชื่อว่าเราจะหาย พอผ่านกระบวนการอาจารย์น้องหญิง เขาก็เลยดีขึ้น เป็นหลักการคล้าย เพน พาราดาในศาสตร์ตะวันตกก็มีแบบนี้ แต่การที่เขาไปแอบอ้างพลังของพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ จึงกระทบจิตใจคนพุทธ ทำให้ถูกต่อต้านจากคนที่นับถือพุทธ
หมอประชา สรุปทิ้งท้ายว่า จาก 2 กลไกนี้ คนไข้จึงดีขึ้น แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องระวัง ผู้ป่วยที่เป็นโรคร้ายแรงอาจทำให้โรคกำเริบก่อนถึงมือหมอจริง ๆ ได้ เช่น อัมพาตจากโรคหลอดเลือดสมอง มะเร็งที่อาจแพร่กระจายไปก่อนถึงมือหมอ นี่คือข้อเสียของศาสตร์ งมงายแต่ก็รักษาฟรี ต่างจากบางลัทธิที่ยังมีการบริจาคเพื่อซื้อที่ดินให้ตัวเอง สุดท้ายกรณีการรักษาดังกล่าว การหายขึ้นอยู่กับศรัทธาของคนที่ไปรักษา เพราะใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว