โฆษก อสส. ยันไม่มีอัยการเชื่อมจิต เผย พม. ไม่เคยขอให้อัยการยื่นศาลเยาวชนฯ

โฆษก อสส. ยันไม่มีอัยการเชื่อมจิต เผย พม. ไม่เคยขอให้อัยการยื่นศาลเยาวชนฯ

View icon 70
วันที่ 27 พ.ค. 2567 | 18.50 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
โฆษก อสส. ยันไม่มีอัยการเชื่อมจิต เผย พม. ไม่เคยขอให้อัยการยื่นศาลเยาวชนฯ หลัง’อนันต์ชัย’ยื่นร้องอัยการไม่ทำหน้าที่

วันนี้ (27 พ.ค.67) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมคณะ 20 กว่าคน เดินทางมายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ให้ตรวจสอบกรณีพบอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายสุราษฎร์ธานี (อจคช.) ไม่ให้ความร่วมมือกับ พม.และไม่ให้คำแนะนำสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในการยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ กรณีลัทธิเชื่อมจิต โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย นายณรงค์ ศรีระสันต์ และ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด มารับมอบหนังสือพร้อมแถลงชี้แจง

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า การยื่นหนังสือในวันนี้ เพราะต้องการให้สำนักงานอัยการสูงสุด ตรวจสอบการทำหน้าที่ของอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายสุราษฎร์ธานี (อจคช.) ว่า มีการปฎิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ลัทธิเชื่อมจิต หรือไม่ รวมถึงหลังจากนี้ทางอัยการจะให้ความช่วยเหลือ พม. ในการตรวจสอบลัทธิเชื่อมจิตหรือไม่ ประชาชนยังจำได้หรือไม่เมื่อครั้งตนเป็นทนายความให้กับเว็บมังกรฟ้าต้องสู้กับ 3 หน่วยงานรัฐ ซึ่งครั้งนั้นตนชนะคดี 3 หน่วยงานรัฐในศาลทั้ง 2 ศาล เหตุผลเนื่องจากทั้ง 3 หน่วยงานนั้นไม่มีอัยการเข้าไปช่วย ซึ่งอัยการเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย หากครั้งนั้นมีอัยการเข้าไปช่วย ตนก็อาจจะไม่ชนะคดี เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันอัยการต้องเข้าไปช่วย

ตนได้ตั้งข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับเด็กเชื่อมจิตคนนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาในที่ประชุม เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ พม. ร่วมพิจารณาด้วย ถึงแม้ข้อสันนิษฐานนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ตนมีหลักฐานที่จะชี้ชัดว่าอาจจะเข้าข่าย เอาเด็กพิเศษบกพร่องทางสติปัญญามาหากิน มาสอนธรรมะ ซึ่งเหตุผลที่ตนเชื่อมั่นว่า เด็กเชื่อมจิต ป่วยเป็นออทิสติก เพราะหลายอาการเหมือนกับลูกชายของตน ที่ป่วยเป็นออทิสติกเหมือนกัน 

ด้าน นายประยุทธ กล่าวถึงกรณีอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิไม่ให้ความร่วมมือกับ พม. ว่า ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กเเละเยาวชน พ.ศ.2553 ในกรณีที่มีเรื่องความรุนแรงหรือประพฤติกับเด็กไม่ถูกต้อง สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนฯ ให้มีมาตรการหรือวิธีการที่จะดูแลเด็กได้ โดยมาตรา 171 ให้ประธานศาลฎีกาสามารถออกข้อบังคับว่าโดยสวัสดิภาพเด็ก มีประเด็นสำคัญกรณีที่มีการกระทำไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเด็ก โดยระบุผู้ที่มีอำนาจยื่นต่อศาลเยาวชนฯ คือ 1.ญาติ 2.พนักงานสอบสวน 3.พนักงานอัยการ 4.เจ้าหน้าที่ 5.องค์กรที่ช่วยเหลือเด็ก ซึ่งกรณีนี้ พมจ.สุราษฎร์ธานี อาศัยข้อบังคับประธานศาลฎีกายื่นคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเอง ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยไม่ได้มีหนังสือถึงพนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่อย่างใด ซึ่ง พมจ.สุราษฎร์สามารถทำได้และทำถูกต้องแล้ว แต่ถ้ามาขอให้อัยการยื่น เราก็จะยื่นให้ โดยไม่มีเหตุที่ต้องปฏิเสธ

โดยล่าสุดทราบว่าทาง พม.ได้ยื่นคำขอคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งศาลมีคำสั่งยกคำร้อง ก็สามารถยื่นใหม่ได้ แต่ในส่วนคดีหลักยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล อัยการจะไม่ก้าวล่วง ยืนยันว่า ไม่มีพนักงานอัยการคนใดไปเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อศรัทธาหรือเป็นสาวกของลัทธิเชื่อมจิต รวมถึงไม่มีอัยการรู้จักครอบครัวของเด็กลัทธิเชื่อมจิตดังที่เป็นข่าว ส่วนที่มีการพาดพิงอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเรื่องนี้เมื่อปรากฎเป็นข่าวก็มีการกระทบภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุดก็ได้ทำการสอบถามหาความจริงพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เเละยังทราบว่าอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานีก็ยังเคยให้ข้อแนะนำ พมจ. สุราษฎร์ธานี อยู่เป็นระยะๆ

ภายหลังโฆษกอัยการสูงสุดได้ชี้แจงเสร็จ ทนายอนันต์ชัย กล่าวสั้นๆ ว่า จะไม่โต้แย้งใด ๆ แต่ยืนยันว่ากองทัพธรรมมีพยานหลักฐานชัดเจน จากนี้ขอให้สังคมเป็นผู้พิจารณา กองทัพธรรมมีความห่วงใยในสถาบันหลักของชาติ คือ พระพุทธศาสนาไม่อยากให้ถูกบ่อนทำลาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง