วันนี้ (28 พ.ค.67) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคระบบการหายใจและผู้ป่วยหนัก เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยยกเคสผู้ป่วยมะเร็งที่อาการแย่ลงจนต้องตัดสินใจยุติความทุกข์ทรมาน โดยผู้ป่วยท่านนี้ เป็นผู้ป่วยเพศชาย อายุ 70 ปี มาโรงพยาบาลด้วยน้ำหนักลด เบื่ออาหาร กินได้น้อย ไม่ไอ ไม่มีไข้ ไม่ปวดหัว ไม่ปวดกระดูก เคยสูบบุหรี่ 1 ซองต่อวัน หยุดสูบนาน 7 ปี
แพทย์เจาะเลือด พบค่ามะเร็ง CEA สูง 11.4 เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวที่ปอดซ้ายด้านล่าง ทำคอมพิวเตอร์ปอดเห็นก้อนขนาด 6.8 × 4.5 × 5.6 เซนติเมตร ที่ปอดซ้ายด้านล่าง และมีถุงลมโป่งพอง เจาะชิ้นเนื้อจากก้อนในปอด ส่งตรวจพยาธิวิทยาพบมะเร็งปอดชนิด adenocarcinoma ตรวจ NGS ไม่พบยีนกลายพันธุ์ ตรวจ PD-L1 ให้ผลลบ ส่งทำ PET scan พบมะเร็งปอดกระจายเข้าต่อมน้ำเหลืองในช่องอกและกระจายออกนอกปอดไปที่กระดูกต้นขาข้างซ้าย
หมอมนูญ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยคนนี้ผ่าตัดไม่ได้ ให้ยามุ่งเป้า หรือยาภูมิคุ้มกันบำบัดก็ไม่ได้ เหลือวิธีสุดท้ายให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด 6 เดือน ผู้ป่วยตอบสนองต่อยาชั่วคราว ต่อมาหอบเหนื่อยมากขึ้น ไม่มีไข้ กินอาหารได้น้อยมาก ค่ามะเร็ง CEA เพิ่มขึ้นเป็น 44 เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวทั้ง 2 ข้าง จากมะเร็งปอดแพร่กระจายไปตามระบบน้ำเหลือง lymphangitic spreading ระดับออกชิเจนที่ปลายนิ้วต่ำมาก ต้องให้ออกซิเจนแรงดันสูงทางจมูก High-Flow Nasal Cannula ตลอดเวลาและให้สเตียรอยด์ อาการทรุดลงต่อเนื่อง
“ผู้ป่วยคนนี้เป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด อาการแย่ลง แพทย์ได้คุยกับญาติและผู้ป่วยเรื่องการให้ยา เพื่อไม่ให้หอบเหนื่อย ไม่ให้หายใจลำบาก ยุติความทุกข์ทรมานก่อนเสียชีวิต ญาติและผู้ป่วยเห็นด้วย 3 วัน หลังจากที่ได้รับยาแก้ปวดกลุ่มมอร์ฟีนและยานอนหลับหยดช้า ๆ ทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยหลับและในที่สุดจากไปอย่างสงบ”
