ปกป้องชื่อเสียง “เฉลิม อยู่วิทยา” ส่งทนายฟ้อง “ศานิตย์-พิธีกร” เรียก 50 ล้าน หมิ่นประมาท กล่าวหาจ่ายเงิน 300 ล้านบาท วิ่งเต้นคดีบอส ลั่นไม่ไกล่เกลี่ย ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 2 ก.ย.นี้
วันนี้ (28 พ.ค.67) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายอำพล แก้วปาน ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายเฉลิม อยู่วิทยา นักธุรกิจชาวไทย เดินทางมา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร สมาชิกวุฒสภา อดีต ผบช.น. และพวกรวม 2 ราย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวน 50 ล้านบาท
คำฟ้องระบุพฤติการณ์ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 ก.พ.67 จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นพิธีกรและผู้ประกาศข่าว และมีจำเลยที่ 2 เป็นแขกรับเชิญออกรายการอันมีเนื้อหาที่เป็นการหมิ่นประมาท โดยมีการโฆษณาด้วยการบันทึกเสียงและภาพ และได้นำคลิป วีดีโอ หรือภาพยนตร์ หรือสิ่งบันทึกเสียงและภาพไปกระจายเสียงและภาพในแอปพลิเคชัน TIKTOK บัญชีของจำเลยที่ 1 ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 26,900 คน มีผู้ถูกใจมากกว่า 219,1000คน และบางคลิปวีดีโอมีผู้ชม มากกว่า 1,400,000 วิว เป็นแพลตฟอร์ม Social Media ที่บุคคลทั่วไปและสาธารณะชนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงได้ โดยจำเลยที่ 1 ได้พาดหน้าคลิปวีดีโอ หรือ ภาพยนตร์ หรือสิ่งบันทึกเสียงและภาพ อันเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้วิ่งเต้นจ่ายเงิน 300 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ อยู่วิทยา ให้พ้นผิดในคดีอุบัติเหตุจราจรรถชน ระหว่างนายวรยุทธ กับ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ โดยรู้อยู่แล้วว่าข้อความดังกล่าวข้างต้นนั้นปราศจากมูลความเป็นจริง การกระทำของจำเลยทั้งสอง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อวงศ์ตระกูลที่สร้างสมมา ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง อันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณา
โดยขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันโฆษณา หรือประกาศคำพิพากษาของศาล และคำขออภัยโจทก์ ลงในเว็บไซต์ข่าว, แอปพลิเคชัน TIKTOK บัญชีจำเลยที่ 1 และหนังสือพิมพ์ตามที่โจทก์กำหนดด้วยเนื้อที่เต็มของหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน และให้ลบข้อความและคลิปวีดีโอ หรือภาพยนตร์ หรือ สิ่งบันทึกเสียงและภาพดังกล่าวออกจากแอปพลิเคชัน TIKTOK ของจำเลยที่ 1 ทันที
ศาลอาญา รับคำฟ้องเป็นคดีอาญาหมายดำที่ 1642/2567 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 2 ก.ย. 67 เวลา 13.30 น.
นายอำพล ทนายความผู้รับมอบอำนาจ กล่าวภายหลังยื่นฟ้องว่า รายการนี้มี พล.ต.ท.ศานิตย์ เป็นแขกรับเชิญได้มีการบันทึกคลิปวีดิโอ แล้วนำไปเผยแพร่ในแอปพลิเคชัน TIKTOK โดยพาดข้อความบนคลิปที่ทำให้ผู้ที่รับชมรับฟังเชื่อว่านายเฉลิมจ่ายเงิน 300 ล้านบาท เพื่อวิ่งเต้นช่วยเหลือนายวรยุทธ ทั้งที่ความจริงแล้วนายเฉลิมไม่เคยพูด และไม่เคยจ่ายเงิน 300 ล้านบาท เพื่อวิ่งเต้นคดีแต่อย่างใด การกระทำของทั้งสองคนทำให้ชื่อเสียงและคุณความดีของนายเฉลิมที่สร้างสมมาต้องเสื่อมเสีย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง จึงได้ฟ้องบุคคลทั้งสองในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับชื่อเสียงและคุณความดีของนายเฉลิมก็ถือว่าไม่เยอะ ขณะนี้ทีมทนายกำลังดูในส่วนของผู้ที่เข้ามาคอมเมนท์และแชร์คลิป หากทำให้นายเฉลิมเสียหายก็อาจจะมีการฟ้องคดีเพิ่มเติมอีก
ส่วนที่ถามเรื่องการขอไกล่เกลี่ยจะยอมความหรือไม่นั้น นายอำพล กล่าวว่า คงไม่มีการยอมความ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา มีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ในคดีของนายวรยุทธ หลายเรื่อง ทำให้เกิดกระแสสังคมเข้าใจผิดมาตลอด เช่นกรณีที่กล่าวหาว่ามีการลากศพผู้เสียชีวิตไป 200 เมตร มาตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งประเด็นนี้คณะทำงานของสำนักงานอัยการสูงสุดได้ชี้แจงต่อกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อปี 2563 ไปแล้วว่า ผลการชันสูตรพลิกศพไม่มีร่องรอยและบาดแผลที่เกิดจากการลากศพไปกับถนน ตามที่มีการให้ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริงแต่อย่างใด การที่นายเฉลิม ฟ้องในครั้งนี้ก็เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย ในการฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลที่ชอบบิดเบือนข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ถ้าพบว่ามีบุคคลใดให้ข้อมูลในลักษณะนี้อีกก็จะดำเนินคดีเช่นกัน เพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนเองและครอบครัวเท่านั้น โดยในวันนัดไต่สวนมูลฟ้องก็เตรียมพยานขึ้นไต่สวนไว้
