ไทย-มาเลเซีย วางเส้นเขตแดนทางน้ำร่วมกัน ป้องกันปัญหาระหว่างประเทศ
วันนี้ (29 พ.ค.67) คณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย-มาเลเซีย ลงพื้นที่สำรวจไปในแม่น้ำโก-ลก อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อร่วมกำหนดเขตแดนทางน้ำให้ชัดเจนขึ้น โดยเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ และป้องกันปัญหาแนวชายแดนร่วมกัน หลังจากเมื่อ 52 ปีก่อน ทั้ง 2 ประเทศ มีการลงนาม MOU ในการสำรวจและการปักปันเขตแดนร่วมกัน ซึ่งเตรียมจะมีการปักหลักเขตแดน เพิ่มเป็น 6,200 หลัก ตลอดริมชายแดนในระยะทาง 662 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เป็นการเดินทาง ลงสำรวจพื้นที่ ของเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ทั้งเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคง กรมแผนที่ทางทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ลงเรือเร็ว ไปสำรวจพื้นในแม่น้ำโก-ลก ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อทำการสำรวจและทำหลักเขตแดนไทย-มาเลเซีย กำหนดเขตแดนร่วมกัน หลังมีการตั้งคณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย-มาเลเซีย ขึ้นมาร่วมสำรวจให้เส้นเขตแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย มีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากในอดีตที่ผ่านมา หลักเขตแดนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำโก-ลก ทั้งในอำเภอตากใบ เรื่อยไปถึงอำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส มีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทั้งจากภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ และการกระทำด้วยฝีมือมนุษย์ ซึ่งเป็นทั้งสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำ ทำให้การลงพื้นที่ สำรวจครั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจน ที่จะเป็นจุด หลักเขตแดนตลอดระยะทางริมชายแดนไทย-มาเลเซีย
โดยพบว่าเขตแดนทางน้ำ ที่อำเภอตากใบ โดยเฉพาะบริเวณริมแม่น้ำโก-ลก อำเภอตากใบ มีความก้าวหน้ามากที่สุดของ ของเขตแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง 4 ทิศของไทย ซึ่งหากการบรรลุ MOU ร่วมกันระหว่างทั้ง 2 ประเทศสำเร็จ และมีการปักหลักเขตแดนได้ตลอดแนว เชื่อว่า จะช่วยแก้ปัญหา ทั้งการ รุกล้ำเขตแดนของประชาชน และเป็นจุดกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศ ให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ได้รู้ขอบเขต รวมถึงเป็นการหลักเขต ที่จะช่วยสร้างความชัดเจนริมชายแดนในทุกมิติในอนาคต
ซึ่งหลังจากนี้ จะทำการสำรวจ ทำหลักเขตแดนร่วม ระหว่างไทยมาเลเซีย ทางบกและทางน้ำ จำนวน 6,200 หลัก ตลอดระยะทาง 662 กิโลเมตร ตั้งแต่เขตรอยต่อจังหวัดสตูล-จังหวัดสงขลา ถึงอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสต่อไป
