มิจฉาชีพแสบอ้างเป็นลูกชายอดีตคนขับรถทางวัด อ้างพ่อป่วยเนื้องอกในสมอง ขอยืมเงินหลวงพ่อ

มิจฉาชีพแสบอ้างเป็นลูกชายอดีตคนขับรถทางวัด อ้างพ่อป่วยเนื้องอกในสมอง ขอยืมเงินหลวงพ่อ

View icon 97
วันที่ 4 มิ.ย. 2567 | 15.19 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
มิจฉาชีพแสบ อ้างตัวเป็นลูกชายอดีตคนขับรถทางวัด อ้างพ่อป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง ขอยืมเงิน 15,000 บาท จากหลวงพ่อ โดยนำทองปลอมเป็นหลักประกัน สุดท้ายถึงรู้ว่าถูกหลอก

วันนี้ (4 มิ.ย.67)  กล้องวงจรปิดภายในวัดนากาญจน์ พื้นที่หมู่ 2 ตำบลวังเย็น อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี บันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะที่พระครูกาญจนเขตนรินทร์ เจ้าอาวาสวัดนากาญจน์ กำลังเดินนำหน้ามิจฉาชีพหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง มุ่งหน้าไปยังกุฎิเจ้าอาวาส เพื่อรับเงิน 15,000 บาท จากเจ้าอาวาสวัด ซึ่งมิจฉาชีพคนนี้ออกอุบายหลอกว่า ตนเองเป็นลูกชายของอดีตคนขับรถของทางวัด ขณะนี้พ่อของตนป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง จึงขอยืมเงินจำนวน 15,000 บาท จากทางเจ้าอาวาสวัดเพื่อจะนำตัวพ่อไปรักษาที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อได้เงินเสร็จเรียบร้อย มิจฉาชีพคนนี้ก็ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปทันที

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่วัดนากาญจน์ และได้พูดคุยกับพระครูกาญจนเขตนรินทร์ เจ้าอาวาสวัดนากาญจน์ ซึ่งถูกมิจฉาชีพหลอกลวง โดยพระครูกาญจนเขตนรินทร์ เล่าห้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองกำลังนั่งพักอยู่ที่โคนต้นมะม่วง หลังตัดหญ้าที่สนามหน้าพระอุโบสถเสร็จ จู่ๆก็มีชายคนหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในวัด และตรงเข้ามาหาตน พร้อมยกมือไหว้และอ้างว่าเป็นลูกชายของอดีตคนขับรถของทางวัดเมื่อหลายปีก่อน โดยสามารถบอกชื่อและรายละเอียดของอดีตคนขับรถรายนี้ได้อย่างถูกต้อง จากนั้นอ้างว่า พ่อของตัวเองกำลังป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมอง ที่เดินทางมาที่วัดในวันนี้ก็หวังที่จะนำเอาปืนและโฉนดที่ดิน มาจำนำไว้กับทางหลวงพ่อ เพื่อหาเงินพาพ่อไปรักษาที่กรุงเทพฯ

ด้วยความที่มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับอดีตคนขับรถรายนี้ และรู้สึกสงสารคนที่กำลังลำบาก ทางพระครูกาญจนเขตนรินทร์ จึงตัดสินใจ ที่จะให้ยืมเงินจำนวน 15,000 บาท เพื่อใช้สำหรับพาคนป่วยไปหาหมอ โดยได้ให้มิจฉาชีพคนนี้ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปเอาเงินที่กุฎิ  พอมาถึงกุฏิ ทางพระครูกาญจนเขตนรินทร์นำเงินมาให้กับมิจฉาชีพ  มิจฉาชีพหยิบสร้อยคอทองคำหนึ่งเส้น มามอบให้กับพระครูกาญจนเขตนรินทร์เพื่อใช้เป็นหลักประกัน ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากวัดอย่างรวดเร็ว

หลังจากให้เงินกับมิจฉาชีพรายนี้ไปแล้ว ทางพระครูกาญจนเขตนรินทร์ รู้สึกเป็นห่วงและอยากที่จะไปเยี่ยมและให้กำลังใจกับอดีตคนขับรถรายนี้ จึงพยายามหาทางติดต่อครอบครัวของอดีตคนขับรถรายนี้ กระทั่งสามารถติดต่อได้และเมื่อได้พูดคุย จึงรู้ว่า อดีตคนขับรถรายนี้ยังแข็งแรงดี และไม่ได้ป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมองแต่อย่างใด อีกทั้งลูกชายของอดีตคนขับรถ ก็ไม่ใช่ชายคนที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปขอยืมเงิน ส่วนทองที่นำมาไว้เป็นหลักประกันก็เป็นทองปลอม

พระครูกาญจนเขตนรินทร์ จึงได้รีบไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี พร้อมนำคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดและภาพของมิจฉาชีพรายนี้ไปให้กับทางตำรวจ ใช้ในการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับวัดอื่นๆอีกต่อไป