ห้องข่าวภาคเที่ยง - เป็นข่าวมาเมื่อ 2 วันก่อน ประเด็นทนายความในจังหวัดราชบุรี บอกถูกมิจฉาชีพ หลอกโอนเงินเกลี้ยงบัญชี กว่า 1 ล้านบาท ล่าสุดทางธนาคาร ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว
ย้อนไปดูภาพเหตุการณ์ ชายอายุ 71 ปี อาชีพทนายความ อยู่ที่จังหวัดราชบุรี ยกถังสิ่งปฏิกูลประท้วงเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพราะไม่ให้ความร่วมมืออายัดบัญชีคอลเซนเตอร์ หลอกดูดเงินเกลี้ยงบัญชี 1.3 ล้านบาท
โดยเจ้าหน้าที่ของธนาคาร บอกว่า ไม่สามารถอายัดบัญชีปลายทางได้ เพราะเป็นความลับลูกค้า ระหว่างเกิดเหตุ รปภ. ของธนาคารดังกล่าว ไม่ได้เข้าไปห้ามหรือช่วยเหลือ มีแต่เสียงตะโกนถามนักข่าว "ทำไมไม่ช่วย จะถ่ายกันอย่างเดียวหรืออย่างไร" ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ตำรวจต่อว่าทาง รปภ. ว่า ผู้เสียหายมาประท้วงธนาคาร แทนที่จะเกลี่ยกล่อม ห้ามปรามช่วยกัน แต่ดันมาด่านักข่าวที่มาทำข่าว
ด้านธนาคารกสิกรไทย ชี้แจงว่า ทนายความ ไม่ได้ถูกดูดเงินจากแอปพลิเคชัน แต่เป็นการโอนเงินผ่านการสแกน QR พร้อมเพย์ ซึ่งคนร้าย หลอกว่าเป็น QR รับเงิน ผู้เสียหาย ดำเนินการตามขั้นตอน และเป็นผู้ใส่รหัส สแกนหน้า และโอนเงิน พร้อมยืนยันรายการด้วยตนเองเป็นจำนวน 2 รายการ และเมื่อธนาคารรับแจ้งเหตุในวันที่ถูกหลอกโอนเงิน เจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการออกเลขที่รับแจ้งเหตุ (Bank Case ID) พร้อมทั้งส่งข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วนให้ธนาคารผู้รับโอนทันที เพื่อระงับธุรกรรมชั่วคราวและไล่เส้นทางการเงิน ตามกระบวนการของกฎหมาย โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนทุกอย่าง
และให้ความร่วมมือหน่วยงานต่าง ๆ ทุกกรณี ส่วนข้อมูลตามที่เป็นข่าว อาจมีความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร ธนาคารขอเน้นย้ำว่าการสแกน QR code ผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิง เป็นการสแกนเพื่อจ่ายเงินเท่านั้น ไม่มีการสแกนเพื่อรับเงิน และเพื่อลดความเสี่ยงการตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพ อย่ากดลิงก์ จาก SMS แปลกปลอม และอย่าแอดไลน์คนที่ไม่รู้จัก