รวบ! ผัวขี้เมาตีนโหด กระทืบเมียดับคาห้อง เดินเท้าหลบหนีซุกป่าไกล 4 กิโลเมตร จ.พระนครศรีอยุธยา
6 มิ.ย. 67 เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรายงาน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย ทราบพร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้อย และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดวังน้อย ออกตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักติดกันหลายห้อง ที่ห้องท้ายสุด พบร่างผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นหญิง ทราบชื่อต่อมาคือ นางราตรี อายุ 53 ปี ใน ต.แกดำ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม เสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพศพตามใบหน้าร่างกายมีบาดแผลถูกทุบตี บวมช้ำหลายแห่งทั่วร่างกาย ใบหน้าเขียวปูด ปากแตกมีเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดวังน้อย ส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายวิโรจน์ อายุ 50 ปี ชาว ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี หลังก่อเหตุได้เดินเท้าหลบหนีออกไปจากห้องเช่าดังกล่าว พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย จึงได้ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับ ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้อย สืบทราบจนรู้ว่า นายวิโรจน์ ผู้ก่อเหตุได้เดินเท้าหลบหนี ไกลกว่า 4 กิโลเมตร มาหาเพื่อนในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และได้หลบซ้อนอยู่ในป่าข้างทาง พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย จึงสนธิกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้อย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดวังน้อย ทำการปูพรหมค้นหา ใช้ระยะเวลากว่า 5-6 ชั่วโมง นาย วิโรจน์ ผู้ก่อเหตุ ทนแรงกดดันไม่ไหว จึงแสดงตัวออกมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม จากนั้นนำมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่ สภ.วังน้อย
โดย นายวิโรจน์ อ้างว่า ภรรยาหายออกจากบ้านไป 3 วัน เพิ่งจะกลับมาเมื่อวานตอนประมาณ 19.00 น. ก็ได้มีการพูดคุยกันถามไปไหนมาก็ไม่ตอบ จนมีปากเสียงกันและลงไม้ลงมือ ก็ใช้มือทุบและใช้กระทืบไปที่ตัวหลายครั้ง จนนิ่งไป ตอนแรกยังหายใจอยู่ และมารู้อีกทีก็หยุดหายใจไปแล้ว ตนเองเลยหนีออกไปหาเพื่อน จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามจับกุมมาได้ในที่สุด ตอนนี้รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันพลาดไปแล้วก็ต้องขอโทษ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้ เมื่อคืนก็ดื่มกินไปนิดหน่อย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายวิโรจน์ ไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งภาพกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ขณะ กำลังลงมือใช้เท้ากระทืบภรรยา ช่วงเวลาประมาณ 21.48 น.วันที่ 5 มิ.ย. จนมีคนดูแลหอพักเดินเข้ามาห้ามปรามแต่ก็ไม่หยุด จากนั้นเวลาประมาณ 03.23 น. รู้ว่าภรรยาเสียชีวิตก็เดินมาเรียกคนข้างห้องบอกว่าภรรยาไม่หายใจแล้ว ก่อนเดินหลบหนีออกจากหอพักไป จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับตัวได้
ด้าน นายวิชัย อายุ 66 ปี กล่าวว่า นายวิโรจน์ ได้เดินมาบอกกับตนเองว่า ให้เดินเข้าไปดูเมียหน่อยไม่รู้ว่าตายหรือยัง ตนเองก็เดินไปดูเห็นสภาพของผู้หญิง ร่างแข็งแล้ว ตายไปแล้ว ส่วนผัวเมียคู่นี้จะชอบตั้งวงดื่มเหล้าและทะเลาะเป็นกิจวัตรประจำวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่เคยทะเลาะกันเลยหมั่นไส้จะมีก็คือไม่เจ็บป่วยเท่านั้นสาเหตุ น่าจะเมาแล้วก็หึงหวง