บุกยิงถึง รพ. ขณะนอนรอผ่าตัดก้อนเนื้อ

อุกอาจ ก่อเหตุในโรงพยาบาล บุกยิงถึงเตียงคนไข้ ขณะนอนรอผ่าตัดก้อนเนื้อ ทำทีเป็นญาติมาติดต่อขอเยี่ยม เดินมาถามพยาบาลคนไข้อยู่เตียงไหน ยังไม่ชัดสาเหตุรู้เพียงเคยไปยืมเงิน 1.2 หมื่นบาท

วันนี้ (7 มิ.ย.67) พ.ต.อ.ยศวัฒน์ แก้วสืบธัญนิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันภายในโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เหตุเกิดที่อาคาร 6 หรืออาคารศัลยกรรมชาย ชั้นที่ 5 ซึ่งผู้ที่ถูกยิง คือ นาย Kyaw Swar Aong อายุ 29 ปี ชาวเมียนมา มีบาดแผลถูกยิงที่ท้ายทอย 1 นัด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องเร่งนำตัวมายังห้องฉุกเฉิน แต่ไม่สามารถช่วยยื้อชีวิตเอาไว้ได้ ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนร้ายได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปทางด้านหน้าโรงพยาบาล 
          
ตำรวจคาดว่าคนก่อเหตุคาดเป็นคนชาติเดียวกัน ทำงานในโรงแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลสำราญ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจตรวจสอบแต่เบื้องต้น ยังไม่พบตัวผู้ต้องสงสัย คาดว่าอาจจะหลบหนีหลังก่อเหตุออกนอกพื้นที่
              
จากนั้น ตำรวจได้นำตัวแฟนสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นชาวไทยมาสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.67 เนื่องจากมีก้อนเนื้ออยู่ที่หลัง โดยนอนพักรอการผ่าตัดที่อาคาร 5 กระทั่งวันนี้แพทย์ให้ไปรอจุดที่อาคาร 6 ชั้น 5 ที่อยู่ติดกันโดยมีแฟนสาวเป็นคนดูแลจนกระทั่งมีคนร้ายเข้ามายิงเสียชีวิต

แฟนสาวของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ทั้ง 2 คน ทำงานที่โรงอวนเดียวกัน คบหาดูใจกันมานานกว่า 4 ปี ซึ่งตลอดเวลาไม่เคยมีปัญหากระทบกระทั่ง โดยทั้งคู่ได้เช่าห้องพักอาศัยอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งมาเห็นก้อนเนื้อ จึงมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนที่แพทย์จะนัดผ่าตัดในวันนี้ (7 มิ.ย.67) ขระนี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่เป็นชนวนในการก่อเหตุอุกอาจ ทราบเพียงผู้เสียชีวิตเคยไปยืมเงินจากคนรู้จักกันจำนวน 12,000 บาท โดยการวางบัตร ATM ไว้กับเจ้าหนี้ ซึ่งเป็นคนในโรงงานเดียวกัน และไม่เคยมีปากเสียงกับผู้ใด จึงไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.ยศวัฒน์ แก้วสืบธัญนิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงกลางดึกวานนี้ (3 มิ.ย.67) เวลาประมาณ 23.00 น. คนร้ายเป็นชายได้ทำทีเข้ามามาเยี่ยมผู้เสียชีวิต โดยมีการถามพยาบาลจากนั้นได้เดินเข้าไปโดยอ้อมไปด้านหลัง แล้วเปิดประตูเดินอ้อมเข้ามา ก่อนใช้อาวุธปืนยิง จากนั้นได้หลบหนีออกไปทางด้านหน้าของโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้ได้ระดมกำลังทั้งตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น และตำรวจสืบสวนภูธรภาค 4 เพื่อติดตามคนร้ายแล้ว