ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจคุมตัว แซน หนุ่มฆ่าเปลือยแฟนสาวไปฝากขัง พร้อมแจ้ง 4 ข้อหาหนัก ด้านพ่อ-แม่ ร่ำไห้ ก่อนยกมือไหว้ ฝากคำขอโทษถึงครอบครัวคนตาย เผยลูกชายดีขึ้น แต่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พูดเพียง ขอโทษ
ช่วงเช้าที่ผ่านมา ครอบครัวของนายแซน ผู้ต้องหาฆ่าเปลือยแฟนสาว ได้เดินทางนำของมาเยี่ยมนายแซน ประกอบไปด้วย เสื้อยืด, กางเกงขาสั้น, กางเกงใน, น้ำยาบ้วนปาก, ทิชชู่เปียก และผ้าชุบน้ำสำหรับเช็ดตัว
จากการสังเกต เห็นว่ามีบางจังหวะที่ครอบครัวของนายแซน เข้าเยี่ยมในห้องผู้ต้องขัง แม่ของนายแซน ถึงขั้นเข่าทรุดนั่งร้องไห้ จนพ่อนายแซน ต้องช่วยปลอบ จากการสังเกตภายในห้องผู้ต้องขัง พบว่า นายแซน มีสติตื่นจากการนอน และกินอาหารได้ตามปกติ
โดยตลอดการคุมขังเมื่อคืนวานนี้ ตำรวจได้จัดกำลังเฝ้าเวรยามกันทั้งคืน เพื่อเฝ้าจับตาพฤติกรรมและป้องกันไม่ให้ทำร้ายตัวเอง เบื้องต้นนายแซน ยังนอนหลับได้ตามปกติ ไม่แสดงท่าทีเครียดหรือวิตกกังวล ส่วนการสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา บอกว่าเป็นคนลงมือทำ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด
หลังจากเข้าเยี่ยมนายแซน ประมาณ 30 นาทีแล้ว พ่อของนายแซน เดินออกมาจากห้องขัง เพื่อไปเข้าห้องน้ำ ทีมข่าวคอยซักถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งคุณพ่อยกมือไหว้ตลอดเวลา พร้อมกับพูดว่า "ผมขอโทษ ขอโทษแทนทุกคน ผมไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องลัทธิซาตานนั้น ไม่เป็นเรื่องจริง" ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องควบคุมผู้ต้องขัง
จากนั้นพ่อและแม่ของแซน เดินออกมาพร้อมกับยกมือไหว้สื่อมวลชนอีกครั้ง ก่อนเปิดใจครั้งแรกว่า ตัวเองอยากจะขอโทษทุกคนแทนลูก โดยเฉพาะพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต เพราะเรารับรู้ว่าเขาเสียใจมาก ซึ่งเราเองก็เสียใจเช่นกัน "แม่ผิดเองที่แม่เลี้ยงลูกไม่ดี แม่ขอโทษ" และอยากจะไปร่วมงานศพที่อุตรดิตถ์
ตอนที่เข้าไปเยี่ยมลูกตอนเช้า ลูกชายก็ยังไม่มีสติมากนัก ไม่สามารถยกมือขึ้นกินข้าวเองได้ และพูดแต่คำว่า "ขอโทษ" พร้อมเล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งสองคนนอนด้วยกัน และพลั้งมือบีบคอน้อง โดยที่ไม่ได้มีการทะเลาะกันก่อนหน้านี้ หลังจากที่ทราบว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ตั้งใจตัดมือและปาดคออำพรางศพเพราะตกใจ ส่วนประเด็นเรื่องลัทธิซาตาน ที่ต้องฆ่าคนฆ่าสัตว์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ครอบครัวจะไม่ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว จะให้ลูกชายรับโทษตามกฎหมาย
ส่วนเรื่องคดี ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ยักย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบัง เคลื่อนย้ายศพ เบื้องต้นมีการคัดค้านการประกันตัว
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวแซน ไปส่งศาลจังหวัดปทุมธานี ขณะนำตัวขึ้นรถคุมขัง ต้องใช้เจ้าหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และตำรวจหิ้วแขนทั้งสองข้างขึ้นรถคุมขัง เนื่องจากนายแซน หลับ ไม่รู้สึกตัว ระหว่างนั้น กองทัพสื่อมวลชนที่ไปติดตามทำข่าว พยายามสอบถามว่า อยากจะขอโทษคนตายหรือครอบครัวเขาหรือไม่ แต่นายแซน ปิดปากเงียบ หลับตา และไม่ตอบคำถามใด ๆ จังหวะนั้นพี่ชายของนายแซน เข้าล็อกคอผู้ช่วยช่างภาพสื่อช่องหนึ่ง แล้วลากออกมา บอกว่า จะดูน้อง น้องเดินไม่ได้ ทำเอาผู้ช่วยช่างภาพไม่พอใจ หวิดวางมวยกันกลางโรงพัก
ขณะที่ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมด้วยแม่และพี่สาวผู้เสียชีวิต เดินทางพบตำรวจ เพื่อติดตามคดี พร้อมให้ปากคำเพิ่มเติม และขอตรวจสอบมือถือของผู้ตาย หลังญาติฝั่งนายแซน ได้ให้ร้ายกับผู้ตายว่า เป็นผู้หญิงไม่ดี เคยทำร้ายร่างกายนายแซน มาก่อน
จึงอยากนำหลักฐานแช็ตในมือถือ ออกมายืนยันว่า ผู้ตายเป็นผู้หญิงที่รักแฟนมาก รวมถึงยังช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟ โอนเงินให้นายแซนใช้ด้วย
ทนายไพศาล เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ มีบุคคลพยายามติดต่อไกล่เกลี่ย จะจ่ายเงินให้ 50,000 บาท ส่วนตัวมองว่า คดีนี้ไม่สามารถไกล่เกลี่ยยอมความได้ ลูกสาวของเขาตายทั้งคน จะจ่ายแค่ 50,000 บาทได้อย่างไร รวมถึงการอ้างว่าป่วยจิต จะต้องดูรายละเอียด การรักษา รวมถึงการใช้ชีวิตของเขาว่า ใช้ชีวิตได้ปกติหรือไม่ ถ้าไม่ถึงกับไม่มีสติรู้ตัว ก็ต้องรับโทษเท่ากับคนปกติ
ขณะที่สื่อพยายามจะสอบถามรายละเอียดกับแม่ของผู้ตาย แต่แม่ร้องไห้ และบอกว่า ไม่สามารถพูดอะไรได้ เนื่องจากมันจุกอก ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นอาการของนายแซน ที่ยังคงสะลึมสะลือ เดินไม่ได้ ต้องให้ตำรวจช่วยกันหิ้วปีก เห็นแล้วรู้สึกอย่างไร พี่สาวของผู้ตาย บอกว่า ไม่มีอะไรจะพูด ส่วนที่พ่อแม่ของนายแซน พยายามขอโทษนั้น ยืนยันว่าไม่ยอมรับคำขอโทษ และไม่อโหสิกรรมให้ เนื่องจากครั้งแรกที่พบกัน แทนที่เขาจะเข้ามาขอโทษด้วยความจริงใจ แต่เขากลับพูดว่า "เขาไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น ขนาดน้องสาวของตนยังไม่พูดอะไรเลย" เมื่อฟังแล้วรู้สึกได้ว่า เขาไม่สำนึก น้องสาวของตนพูดไม่ได้จริง ๆ เพราะน้องตายแล้ว
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ต้องหาฝากขัง ทางผู้ต้องหาได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลจังหวัดปทุมธานี พิจารณาแล้ว มีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง ลักษณะการก่อเหตุเป็นคดีสะเทือนขวัญ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนี จากนั้นศาลให้ออกหมายขังผู้ต้องหา ก่อนส่งไปยังเรือนจำปทุมธานี
ล่าสุดช่วง 16.30 น.ที่ผ่านมา แม่และพี่สาวของผู้เสียชีวิต นิมนต์พระไปเชิญวิญญาณยังจุดพบศพ บริเวณใต้ทางด่วนบางพูน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า คุณแม่ร้องไห้ตลอดเวลา โดยทำพิธีอยู่ประมาณ 10 นาที ก่อนทีแม่และพี่สาวจะพาร่างผู้เสียชีวิตเดินทางกลับจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป
