กู้ภัยตีกันแย่งคนเจ็บ อาสาฯ ชี้แจงปมเหตุเกิดจากคู่กรณีนำคนเจ็บไปส่ง รพ.ไม่ตรงตามสิทธิประกันสังคม ร่วมกตัญญูฯ ลั่นไม่เจรจาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก กู้ภัยฝ่ายคู่กรณีอยู่นอกระบบการแพทย์ฉุกเฉิน สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น คือ กู้ภัยตีกันต่อหน้า ปชช. ที่ได้รับบาดเจ็บ
ความคืบหน้าเหตุอาสาสมัครกู้ภัย 2 มูลนิธิ ตีกันในพื้นที่วังทองหลาง เหตุเกิดคืนวานนี้ (9 มิ.ย.67) จากนั้นได้แยกย้ายกันไปแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง และวันนี้ (10 มิ.ย.67) สน.วังทองหลาง หลังตำรวจนัดให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาเจรจาพูดคุยปรับความเข้าใจกัน ในเวลา 14.00 น.
นายชัยวุฒิ อายุ 36 ปี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าถึงสาเหตุการทะเลาะวิวาทว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา ตนกับคู่กรณีมีปัญหากันในเรื่องส่งผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล ซึ่งคู่กรณีเป็นอาสาสมัครมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพ ได้นำผู้บาดเจ็บไปส่งคนละโรงพยาบาลกับที่ญาติผู้บาดเจ็บร้องขอ โดยเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมของผู้บาดเจ็บ เมื่อญาติต้องการประสานจะให้กู้ภัยนำผู้บาดเจ็บย้ายโรงพยาบาล ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ญาติจึงติดต่อไปทางมูลนิธิร่วมกตัญญู ตนจึงได้รับมอบหมายให้นำผู้บาดเจ็บย้ายไปส่งโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม แต่กลับถูกคู่กรณีโพสต์ด่าผ่านเฟซบุ๊ก
กระทั่งคืนวานนี้ (9 มิ.ย.67) ตนได้ไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม และได้รายงานผ่านวิทยุสื่อสารไปยังศูนย์ ทำให้คู่กรณีทราบพิกัดแล้วตามมาหาเรื่อง ระหว่างที่ตนกำลังจะนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยกลุ่มของคู่กรณีนำรถมาจอดขวางประมาณ 10 คัน จากนั้นมีคนประมาณ 30-40 คน มาล้อมรถของตนไว้ ไม่ให้นำส่งผู้บาดเจ็บ และตะโกนโวยวายใส่ ตนพยายามบอกว่าขอนำผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลก่อน แล้วจะกลับมาเคลียร์แน่นอน แต่คู่กรณีไม่ยอม บอกให้ผู้บาดเจ็บไปกับคนอื่นแทน ทำให้ผู้บาดเจ็บตกใจกลัวมาก รีบหนีลงจากรถและขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านไปเอง
จากนั้นคู่กรณีก็เข้ามาต่อยเข้าที่กกหูซ้าย ใบหน้าด้านซ้าย และแผ่นหลัง รวมถึงวิ่งไล่อาสาสมัครกู้ภัยอีกคนที่มากับตน แล้วใช้ไม้ตีที่ขาขวา ทำให้เพื่ออาสากู้ภัยได้รับบาดเจ็บเช่นกัน พร้อมยืนยันว่า ฝ่ายคู่กรณีไม่ได้จะมาแย่งรับผู้บาดเจ็บ แต่ต้องการมาหาเรื่อง
ด้านนายพิมพ์ชนก ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา กรรมการอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวเกิดจากปัญหาที่มีมาก่อนหน้า อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้ไปจอดรถพูดคุยกับคู่กรณีเพื่อเคลียร์ปัญหา แต่เรื่องลุกลามจนเกือบจะมีเรื่องใช้กำลังกัน แล้วต่างฝ่ายก็แยกย้ายกันไป กระทั่งเกิดเหตุวิวาทขึ้นมา มูลนิธิร่วมกตัญญูยืนยันว่าไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง และไม่เจรจาไกล่เกลี่ยกับหน่วยงานกู้ชีพที่อยู่นอกระบบการแพทย์ฉุกเฉิน อาจทำให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม มูลนิธิร่วมกตัญญูยืนยันว่าสามารถทำงานร่วมกับมูลนิธิอื่นได้ เพราะปัจจุบันในระบบการแพทย์ฉุกเฉินมีการทำงานช่วยเหลือผู้บาดเจ็บร่วมกับ 8 องค์กร และแม้เหตุที่เกิดขึ้นจะมาจากการโต้เถียงบนโซเชียลมีเดีย แต่สังคมจะมองว่าเป็นการแย่งผู้บาดเจ็บ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นความจริงส่วนหนึ่ง เป็นฝั่งคู่กรณีมาแย่งผู้บาดเจ็บ แต่สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยคือการทำร้ายร่างกายกันต่อหน้าประชาชนซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ
