ลุงยงที่ลูกสาวพามานอนรอความตาย ในศาลาตั้งศพ วัดโคกสมานคุณ เพราะไม่มีที่ไป เสียชีวิตแล้ว ญาติสวด 1 คืน แล้วเผาเลยพากระดูกกลับบ้านเกิดที่ จ.หนองคาย
จากเหตุการณ์ที่มีลูกสาวพาพ่อ อายุ 63 ปี มานอนรอความตาย ภายในศาลาตั้งศพ วัดโคกสมานคุณ (พระอารามหลวง) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) หลังจากที่พ่อประสบอุบัติเหตุขี่จักรยานยนต์ชนรถจักรยานยนต์ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมาเกือบ 6 เดือน จนหมดทางรักษา และญาติขอยุติการรักษาให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจและพาออกจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ แต่ทางเจ้าของบ้านเช่า ไม่อยากให้พากลับไปตายที่บ้านเช่า จึงต้องพามาอยู่ที่วัดโคกสมานคุณ เพราะ ไม่รู้ว่าจะพาไปอยู่ที่ไหน กลายเป็นภาพที่น่าเวทนาและหดหู่ใจกับผู้ที่พบเห็น เพราะคนยังไม่ตาย แต่ต้องมานอนรอความตายภายในศาลาตั้งศพ
เบื้องต้นเมื่อวานนี้ นายณรงค์พร ณ พัทลุง หรือปลัดแป้น พบและช่วยเหลือโดยประสานให้โรงพยาบาลหาดใหญ่ มารับกลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ก่อนจนกว่าจะเสียชีวิตนั้น
ล่าสุดในวันนี้ (14 มิ.ย. 67) มีรายงานว่า ลุงยง อายุ 63 ปี ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลาตี 3 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางโรงพยาบาลหาดใหญ่ รับกลับไปดูแลจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต และญาติได้นำร่างของลุงยง ออกจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ มาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ และจะมีพิธีรดน้ำศพราวช่วงเที่ยงของวันนี้
โดยญาติจะสวดบำเพ็ญกุศลศพเพียง 1 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้เลย เนื่องจากไม่มีญาติมีพี่น้อง และไม่ต้องการให้เป็นภาระใคร น.ส.พัชรา เหรือนุ่ม อายุ 23 ปี ลูกสาวของลุงยง บอกว่า พ่อเสียชีวิตเมื่อช่วงตี 3 เมื่อคืนนี้ หลังจากที่ถูกส่งกลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และขอจบเรื่องทุกอย่างที่เป็นประเด็นดราม่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้่นเมื่อวานนี้ หลังจากที่นำร่างพ่อมาตั้งไว้ในศาลาสวดศพ เพื่อนอนรอความตาย ทั้งเรื่องเจ้าของบ้านเช่าที่ไม่ยอมให้พาพ่อกลับไปตาย หรือว่าเรื่องอื่นๆ ที่สังคมตั้งคำถาม และอาจจะไปกระทบกับหลายฝ่าย เพราะว่า เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นการตัดสินใจของญาติเอง ไม่เกี่ยวกับบุคคลอื่นแต่อย่างใด โดยหลังจากเผาศพพ่อแล้ว ก็จะนำกระดูกกลับไปบ้านเกิดพ่อที่ จ.หนองคาย และขอขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือครอบครัวตน
ด้าน นายณรงค์พร ณ พัทลุง หรือ ปลัดแป้น ที่ได้เข้ามาช่วยเหลือลูกสาวกับลุงย งและประสานโรงพยาบาลหาดใหญ่ ให้รับกลับไปดูแลจนกว่าจะเสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตอนที่มาพบสงสารมาก เพราะว่า ลุงยงยังไม่เสียชีวิต ยังกระพริบตา และยกขาได้ จะมาตั้งไว้ที่ศาลาตั้งศพแบบนี้ไม่ได้ และญาติก็ลำบากไม่มีเงินเลย เพราะว่า ต้องดูแลลุงยงที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาหลายเดือน แทบจะไม่ได้ทำงาน ใครมาเห็นแล้วไม่สบายใจ ตนก็เลยต้องช่วยเหลือ เพราะ ปล่อยให้นอนรอความตายอยู่ในศาลาตั้งศพไม่ได้ จึงประสานงานให้ทางโรงพยาบาลหาดใหญ่ มารับตัวกลับไปดูแล จนกระทั่งเสียชีวิต ในวันนี้ก็จะช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายการบำเพ็ญกุศลศพให้กับลุงยง ทั้งหมด ซึ่งญาติบอกว่า จะสวดคืนเดียวแล้วเผาเลย