แกะรอยหาผู้บงการขโมยเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน

View icon 103
วันที่ 17 มิ.ย. 2567 | 22.31 น.
ประเด็นเด็ด 7 สี
แชร์
ประเด็นเด็ด 7 สี - หลังใช้เวลาเดินทางมากกว่า 24 ชั่วโมง จากน่านน้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือ EEC ล่าสุด เรือขนน้ำมันของกลาง 3 ลำ ที่สูญหายจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ก็ถูกควบคุมถึงท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสงขลาแล้ว ขณะที่น้ำมันแต่ละลำเหลือแค่ก้นถัง ติดตามจาก คุณ เตชะวัฒน์ สุขรักษ์ รายงานจาก ท่าเทียบเรือสถานีตำรวจน้ำสงขลา

เรือขนน้ำมันทั้ง 3 ลำ ถูกประกบเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือตำรวจน้ำสงขลาแล้ว เมื่อเวลา 19.20 น. ก่อนที่ตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหากับลูกเรือทั้ง 8 คน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่สรรพสามิต สาขาสงขลา ตรวจน้ำมันพบเหลือเพียงก้นถัง ไปดูคลิปภาพนาทีที่ตำรวจเข้าควบคุมเรือทั้ง 3 ลำ กันก่อนเลย

นาทีช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ที่ตำรวจน้ำ ติดตามจับกุมเรือดาวรุ่ง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ลำ เรือขนน้ำมันเถื่อนของกลางที่หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ โดยติดตามไปจับกุมได้ในเขตน่านน้ำเศรษฐกิจ จำเพาะ หรือ EEC จากนั้นก็เข้าควบคุมเรือ เจพี และ เรือกำไร ขณะลอยลำอยู่ไม่ไกลกันมากนัก โดยเรือทั้ง 3 ลำ ที่ควบคุมจับกุมได้ ลำแรก ชื่อ เรือ กำไรเงิน, ลำที่สอง ชื่อ เรือ เจพี, ลำที่สาม ชื่อ เรือ ดาวรุ่ง

ขณะที่ช่วงเวลา 19.20 น. ตำรวจน้ำ ประกบเรือทั้ง 3 ลำ เทียบท่าที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสงขลาแล้ว โดยลำแรกเป็นเรือชื่อ กำไรเงิน, ลำที่ 2 ชื่อ เรือ เจพี และลำที่ 3 ชื่อเรือ ดาวรุ่ง ซึ่งเป็นเรือลำที่เครื่องยนต์เสีย และจากการตรวจสอบเรือ กำไรเงิน พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงรูปพรรณเรือ โดยทาสีจากสีแดงเป็นสีเขียว ที่พื้นเรือ และเก๋งเรือทาสีเทารองพื้นเตรียมทาสีเขียว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งจากการสืบสวน มีการนำเรือเข้าไปเปลี่ยนรูปพรรณที่อู่เรือในประเทศกัมพูชา และเมื่อถูกตำรวจกัมพูชา กดดันอย่างหนัก จึงนำเรือออกจากอู่เรือ หลบหนี

ทั้งนี้เมื่อเรือทั้ง 3 ลำ เทียบท่าแล้ว ตำรวจกองปราบปรามได้แจ้งข้อหากับลูกเรือบนเรือทั้ง 3 ลำ จำนวน 8 คน ทั้งหมดเป็นชาวไทย ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และข้อหาลักทรัพย์ หลังแจ้งข้อหาแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ให้ผู้ต้องหานำตรวจค้นเรือ และเก็บดีเอ็นเอ และเก็บพยานหลักฐาน เอกสาร บนเรือ เพื่อนำไปประกอบสำนวน

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ ศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อน เจ้าหน้าที่สรรพสามิต สาขาสงขลา ได้ใช้กระป๋องน้ำตัดครึ่ง ผูกกับท่อพีวีซี หย่อนลงไปตักน้ำมันในแทงก์ขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งพบว่าในแทงก์น้ำมันแต่ละลำ เหลือน้ำมันติดก้นแทงก์เท่านั้น ซึ่งการสอบสวนสืบสวน พบว่า มีการนำน้ำมันไปขายที่ประเทศกัมพูชาแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง