สำนักข่าวซินหัว (Xinhua) ของจีน รายงานว่า สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติญี่ปุ่น พบผู้ป่วยกลุ่มอาการภาวะช็อกจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สเตร็ปโตคอสคัส หรือ โรคแบคทีเรียกินเนื้อ (flesh-eating bacteria) นับตั้งแต่ต้นปีนี้ จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน แล้ว 1,019 ราย
ขณะที่รายงานแนวโน้มโรคติดเชื้อรายสัปดาห์ ในช่วงวันที่ 3-9 มิถุนายน พบว่า ที่กรุงโตเกียว มีจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันมากที่สุดในปีนี้ ที่ 150 ราย รองลงมาคือจังหวัดไอจิ 69 ราย
นอกจากนี้ สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติญี่ปุ่น เผยว่า แบคทีเรียรุนแรงชนิดนี้แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นโรคที่เริ่มเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน มีสาเหตุหลักมาจากเชื้อสเตร็ปโตคอสคัส ชนิดเอ (Group A Streptococcus) อาการเริ่มแรกมักประกอบด้วยอาการเจ็บคอ มีไข้ เบื่ออาหาร ท้องเสีย อาเจียน และปัญหาระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ รวมถึงสัญญาณของอาการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างภาวะความดันโลหิตต่ำ
หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การติดเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวอาจทำให้เนื้อเยื่ออ่อนเสียหาย ระบบหายใจล้มเหลว ตับวาย ไตวาย และอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว โดยมีอัตราการเสียชีวิตเกิน 30 เปอร์เซ็นต์
โรคแบคทีเรียกินเนื้อ มักแพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากสารเมือกในจมูก หรือลำคอ และผ่านการสัมผัสกับบาดแผล ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ผู้คนมักเข้าใจผิดว่าอาการเริ่มแรกของการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้เป็นไข้หวัด เนื่องจากมีอาการป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำว่า หากมีอาการไข้สูง ร่วมกับอาการเพ้อ หรือมีรอยแดงที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วรอบ ๆ บาดแผล ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันการลุกลามของโรคที่อาจคุกคามถึงชีวิต