ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมเลขาธิการ กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปติดตามการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ภาคเหนือของสำนักงานชลประทานที่ 4 ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ตาก สุโขทัย และแพร่ มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 208 โครงการ แล้วเสร็จ 180 โครงการ
จังหวัดกำแพงเพชร มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 28 โครงการ แล้วเสร็จ 26 โครงการ โดยโครงการอ่างเก็บน้ำคลองน้ำขาวอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอคลองลาน อยู่ระหว่างก่อสร้าง และโครงการอ่างเก็บน้ำคลองขลุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริบ้านแม่พืช อำเภอคลองลาน คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปีงบประมาณ 2567
ส่วนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการฯ เมื่อปี 2521 โดยเปิดโครงการชลประทานประเภทรับน้ำนอง ที่ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง และก่อสร้างอาคารปากคลองส่งน้ำบริเวณตลิ่ง และขุดลอกคลองชักน้ำรับน้ำจากแม่น้ำปิง แล้วเสร็จในปี 2528 สามารถส่งน้ำได้ประมาณ 100,000 ไร่ ต่อมา จังหวัดกำแพงเพชร ประสบปัญหาภัยแล้ง จึงเสนอโครงการก่อสร้างฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง เพื่อยกระดับน้ำให้เข้าคลองส่งน้ำ โดยก่อสร้างใต้คลองส่งน้ำโครงการท่อทองแดงเป็นแห่งแรก เพื่อเป็นกรณีศึกษาผลกระทบ ข้อดี และข้อเสีย
จนปี 2555 โครงการฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง ยกระดับเป็นโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง และพัฒนาระบบคลองส่งน้ำ ปรับปรุงอาคารปากคลองส่งน้ำใหม่ เดิมรับน้ำจากแม่น้ำปิงในอัตรา 25 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มเป็น 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เพิ่มพื้นที่ส่งน้ำในเขตชลประทานได้ประมาณ 240,000 ไร่ นอกเขตชลประทานได้ประมาณ 82,000 ไร่ และพื้นที่รับประโยชน์ในอำเภอคีรีมาศ และอำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ประมาณ 56,000 ไร่
นอกจากนี้ ได้สนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้จัดทำแผนการปรับปรุงโครงการฯ ได้แก่ การปรับปรุงช่วงต้นคลอง การปรับปรุงคลองส่งน้ำและอาคารประกอบ 20 สาย และโครงการแก้มลิง 24 แห่ง รวม 17 โครงการ 74 กิจกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำของราษฎรในพื้นที่และใกล้เคียง ให้สามารถใช้น้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งการอุปโภค-บริโภค และการเกษตร รวมทั้งช่วยลดปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย ด้วย
