สนามข่าว 7 สี - ที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีทนายความผู้รับมอบอำนาจ ไปยื่นฟ้อง 3 หน่วยงาน ที่อายัดรถหรู ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเป็นของกลางในคดีพิเศษ จนต้องเรียกค่าเสียหายไปกว่า 49 ล้านบาท เรื่องนี้ทาง DSI มีการชี้แจงออกมาแล้ว
หลังมีผู้ประกอบการเต็นท์รถยนต์ ยื่นฟ้องจำเลย 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมศุลกากร, กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI และสำนักงานอัยการสูงสุด รวมทั้งหมด 9 ราย จากกรณีที่ได้ซื้อรถหรู ลัมบอร์กีนี ที่มีการถอนอายัดทางคดี แล้วต่อมากลับมีการอายัดไปเป็นของกลางทางคดีอีกครั้ง จนทำให้เกิดความเสียหาย รวมกว่า 49 ล้านบาท
ประกอบกับมีรายงานข่าวว่า การซื้อขายดังกล่าวมีข้อมูลการตรวจสอบ พบมีการใช้อำนาจโดยพลการ ไม่ผ่านพนักงานสอบสวน ในการสั่งถอนอายัดของกลางในคดี จนทำให้ต่อมา อัยการสูงสุดต้องมีคำสั่งอายัดของกลางเป็นครั้งที่ 2 สร้างความเสียหายต่อผู้ที่ซื้อขายรถที่เข้าใจว่าไม่ใช่รถของกลางในคดี
ทำให้ทาง DSI นิ่งเฉยไม่ได้ สั่งตรวจสอบเรื่องนี้ทันที ก่อนทำเอกสารข่าวชี้แจงออกมาว่า รถคันดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีพิเศษ ที่ DSI รับไว้เป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2560 หลังสืบสวนพบมีการหลีกเลี่ยง และสำแดงภาษีเท็จ ต่อมา พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้น จึงทำความเห็นทางคดีส่งไปให้พนักงานอัยการพิจารณาไปเมื่อปี 2562
โดยขณะนั้นพนักงานอัยการ เห็นว่าไม่เป็นของกลางทางคดี จึงมีคำสั่งถอนอายัด กระทั่งเรื่องนี้ขึ้นสู่การพิจารณาของอัยการสูงสุด มีความเห็นควรอายัดเป็นของกลางทางคดี จึงมีการสั่งอายัดรถคันนี้เป็นครั้งที่ 2 ทำให้ DSI ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้ประสานสอบถามเรื่องนี้กับสำนักงานอัยการสูงสุด ทราบว่าอยู่ระหว่างนำเรียนเรื่องดังกล่าวให้อัยการสูงสุดพิจารณา เนื่องจากในรายชื่อที่ถูกยื่นฟ้อง มีพนักงานอัยการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
