“บิ๊กโจ๊ก” ลุยต่อ! ฟ้อง “พล.ต.อ. วินัย” จงใจใส่ร้ายเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ เรียก 10 ล้าน ย้ำแม้เป็นคณะกรรมการสอบสวนฯ แต่ไม่มีหน้าที่พูดวินิจฉัยเรื่องคดี หรือพิพากษาคดีเองแทนศาล
วันนี้ (25 มิ.ย. 67) ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้อง พลตำรวจเอกวินัย ทองสอง คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. กูรูด้านกฎหมาย หนึ่งในคณะกรรมการสอบสวนที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบประเด็นความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้ว ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท จากกรณีพลตำรวจเอกวินัย ให้สัมภาษณ์ ยืนยันข้อเท็จจริงให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเว็บพนันออนไลน์ หลังศาลอนุมัติหมายจับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในคดีดังกล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า แม้ว่าศาลจะออกหมายจับตนในคดีเว็บพนันออนไลน์ แต่ก็เป็นเพราะตนไม่ไปตามหมายเรียก ไม่ใช่เพราะตนกระทำความผิด แต่การที่พลตำรวจเอกวินัย ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบประเด็นความขัดแย้ง ก็มีหน้าที่เพียงตรวจสอบและรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ไม่ได้มีหน้าที่ออกมาพูดวินิจฉัยเรื่องคดี หรือพิพากษาคดีเองแทนศาลรวมถึงต้องให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง ฟังความและพยานจากทั้ง 2 ฝ่าย โดยตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาคดีถึงที่สุด ก็ถือว่าผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้นการให้ความเห็นคดีที่ชี้นำสังคม ทำให้สังคมเชื่อไปแล้วว่าตนเองรับเงินเว็บพนันจริง หรือมีความผิดฐานฟอกเงิน จึงเข้าข่ายหมิ่นประมาท
พร้อมยืนยันว่า พลตำรวจเอกวินัย สามารถให้ความรู้ทางกฎหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกหมายจับหรือหมายเรียก แต่ไม่ใช่ชี้นำสังคมให้เข้าใจว่าบุคคลใดมีความผิด ท่านอาจเกษียณจากราชการตำรวจไปนาน ลืมข้อกฎหมาย จนละเมิดสิทธิทางอาญา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุม ก.ตร. ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ก็ให้เป็นไปตามดุลพินิจ ตนไม่ขอแทรกแซง แต่กระบวนต้องถูกต้องและชอบธรรม เคารพสิทธิตนด้วย วันนี้ไม่กังวลว่าจะถูกครหาที่ออกมายื่นฟ้อง เพราะใช้สิทธิตามกฎหมาย ไม่ใช่การขู่หรือฟ้องปิดปาก เพียงออกมาต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ใครไม่โดนแบบตนเองก็คงไม่รู้
ทั้งนี้ หากผลการประชุม ก.ตร. ออกมาเป็นลบกับตน ยังมีช่องทางที่จะเรียกร้องสิทธิฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อได้ ตอนนี้เพียงรอคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.)
อย่างไรก็ตามวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนนี้ จะไปยื่นฟ้องกูรูอีก 1 คนด้วยในความผิดฐานหมิ่นประมาทเช่นเดียวกัน และสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องผู้บังคับบัญชาระดับสูงด้วย
“ส่วนที่ตนเองถูกดำเนินคดีเรื่องพนันออนไลน์ หากตนผิดก็น้อมรับ ถ้าไม่ผิดก็คือไม่ผิด แต่ตนเองจะไม่ขอพูดชี้นำสังคม และปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน แต่ก็เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ถ้าตนเองเป็นผู้รักษากฎหมายเอง แต่ไปรับเงินเว็บพนันเอง ก็คงไม่มียางอาย ที่จะมารับใช้ประชาชน และหากตนเองผิดชัดเจน ก็ถือว่าเกมโอเวอร์” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบเรื่อง ไม่มีการประสานใดๆ กรณี ที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม นำรถส่วนตัวไปจอดที่จอดรถประจำตำแหน่งของตนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
