เจ้าหน้าที่เริ่มทำความสะอาดยอดเขา “เอเวอร์เรส” ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก หลังหิมะละลายจนเห็นศพนักปีนเขาถูกฝังโผล่เกลื่อนนับร้อยศพ และเก็บขยะได้มากถึง 11,000 กิโลกรัม
วันนี้ (27 มิ.ย. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้ฤดูการทำความสะอาดยอดเขา “เอเวอร์เรส” ประจำปีเริ่มต้นแล้ว โดยในปีนี้เจ้าหน้าที่สามารถเก็บขยะระหว่างทางขึ้นยอดเขาได้ถึง 11,000 กิโลกรัม และเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ปีนี้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้นจนเผยให้เห็นศพของนักปีนเขานับร้อยที่เสียชีวิตระหว่างเดินทางเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
โดยศพของนักปีนเขาส่วนใหญ่ถูกหิมะฝังอยู่ในเขตที่เรียกว่า “โซนมรณะ” (Death Zone) ซึ่งเป็นจุดที่ใกล้ยอดเขาเอเวอเรสต์ที่มีออกซิเจนเบาบางและอุณหภูมิติดลบกว่า 30 องศาเซลเซียส
ล่าสุด หลังการทำความสะอาด เจ้าหน้าที่กู้ภัยเพิ่งสามารถนำร่างของผู้เสียชีวิต 5 คน ที่ถูกความเย็นแช่แข็งนำคืนกลับสู่ครอบครัวได้สำเร็จ โดยมี 1 ศพที่ทีมกู้ภัยต้องใช้เวลานาน 11 ชั่วโมง เพื่อละลายน้ำแข็งทั้งใช้ขวานเซาะร่วมกับเทน้ำเดือดจนสามารถนำร่างออกมาได้ ขณะที่บางศพเหลือแต่โครงกระดูกหลังเสียชีวิตมานาน
