รวบทันควัน! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อสูงอายุ เอาเงินไป 3 ล้าน

View icon 551
วันที่ 2 ก.ค. 2567 | 12.28 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจ สภ.บ้านบึง รวบทันควัน! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะนัดรอรับเงินจากเหยื่อสูงอายุ รอบที่สอง หลังรอบแรกนัดรับเงินสด เพราะเหยื่อไม่มีแอปฯ ธนาคาร ได้ไป 3 ล้าน

2 ก.ค. 67 พ.ต.อ.สมชาย ทิวงษา ผกก. สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.พิสิฐ กิจขุนทด รอง ผกก.สืบสวน สภ.บ้านบึง พร้อมกำลังชุดสืบสวน เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันหลอกเอาเงินผู้อื่น หลังผู้เสียหายเป็นชายสูงวัย คือ นายก้อง (นามสมมุติ) อายุ 80 ปี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 67 แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โทรศัพท์มาพูดคุยแจ้งว่านายก้อง ได้มีส่วนกันเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฏหมาย และการฟอกเงิน ให้โอนเงินที่อยู่ในบัญชีธนาคาร เพื่อตรวจสอบ หากไม่ทำตามจะถูกดำเนินคดี เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ จะต้องให้ความร่วมมือกับผู้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ และห้ามมิให้ผู้เสียหายเปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครรู้ ให้เก็บเป็นความลับ แต่เนื่องจากผู้เสียหาย ไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันธนาคารเอาไว้ จึงไม่สามารถโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ทางมิจฉาชีพให้เตรียมเบิกเงินสดจากธนาคารเอาไว้เดี๋ยวจะมีคนมารับเงิน
     
ต่อมาวันที่ 27 มิ.ย. 67 ผู้เสียหายได้เดินทางไปเบิกเงินสดที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ใน อ.บ้านบึง จำนวน 3 ล้าน โดยแก๊งคอลเซนเตอร์จะเป็นคนนัดแนะเวลาสถานที่ นัดรับเงินสดที่หน้าโชว์รูมรถแห่งหนึ่งบนถนนสาย 344 พื้นที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นายก้อง ผู้เสียหายได้มอบเงินจำนวน 3 ล้านบาทให้กับคนที่มารับเงินไป จากนั้นทางแก๊งคอลเซนเตอร์ ก็ได้ติดต่อมาอีกในวันที่ 1 ก.ค. 67 บอกให้ผู้เสียหายจะโอนเงินที่อยู่ในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาให้ตรวจสอบอีก และจะมีคนมารับเงินเหมือนครั้งก่อน นายก้อง จึงให้ลูกสาวช่วยขับรถไปส่ง กระทั่งลูกสาวรู้ความจริงจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจววางแผนเพื่อจับกุม

โดยจับกุมตัวได้บริเวณริมถนนสาย 344 หน้าหมู่บ้านบวรธรรม เขตอำเภอบ้านบึง ชลบุรี ทราบชื่อต่อมาคือนายวิศรุต อายุ 35 ปี ซึ่งเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สน.โชคชัย ได้เงินไปจำนวน 1.5 ล้านบาท จนมาถูกจับกุมในครั้งนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ร่วมมือกันอีกรายทราบชื่อนายแบงค์ ได้หลบหนีไปได้
       
ด้าน น.ส.น้อย (นามสมมุติ) ลูกสาวนายก้อง เล่าว่าพ่อตนเองหลงเชื่อแก๊งมิจฉาชีพ ที่ส่งเอกสารปลอมมาให้ดูทางไลน์ ว่า มีส่วนพัวพันกับการฟอกเงินและทำผิดกฏหมาย ขอตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคาร โดยการให้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ แต่คุณพ่อของตนไม่ได้มีแอปพลิเคชันของธนาคาร จึงไปเบิกเงินสดจากธนาคารมา 3 ล้าน และเกือบจะสูญเงินอีกเป็นครั้งที่สอง ดีที่ตนเองได้ทำการสอบถามรายละเอียดจากพ่อ จนทราบว่าถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอก จึงประสานตำรวจ สภ.บ้านบึง ตามจับแก๊งมิจฉาชีพได้ 1 คน
     
ขณะที่ พ.ต.ท.พิสิฐ กิจขุนทด รอง ผกก.สืบสวน สภ.บ้านบึง ได้เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่หลอกผู้เสียหายให้โอนเงิน แต่เนื่องจากทางญาติ ๆ ของผู้เสียหาย มีความเป็นห่วงความปลอดภัยในทรัพย์สินและเป็นผู้สูงอายุ จึงไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันของธนาคารไว้กับโทรศัพท์มือถือ ทางกลุ่มมิจฉาชีพจึงหลอกให้ผู้เสียหายเบิกเงิน และจะเดินทางมารับเงินกับผู้เสียหายตามสถานที่นัดหมาย โดยทำสำเร็จไปแล้ว 1 ครั้ง

ส่วนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จึงตั้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง ประชาชนโดยการแสดงตนว่าเป็นคนอื่น โดยทุจจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเสพสารเสพติด

เบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับว่าเสพยาเสพติด ส่วนข้อหาอื่น ๆ ยังปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนกับพฤติกรรมของทางผู้ต้องหาว่าได้ก่อเหตุจริงจึงวางแผนเข้าจับกุมดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง