ญาตินำภาพผู้ตายที่เป็นพี่สาวขึ้นโรงพักหาดใหญ่ แจ้งความโรงพยาบาลประมาทเลินเล่อทำเสียชีวิต

ญาตินำภาพผู้ตายที่เป็นพี่สาวขึ้นโรงพักหาดใหญ่ แจ้งความโรงพยาบาลประมาทเลินเล่อทำเสียชีวิต

View icon 296
วันที่ 5 ก.ค. 2567 | 15.13 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผอ.รพ.แจงผู้ตายป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว มีอาการเลือดออกในสมอง แพทย์ไม่สามารถผ่าตัดได้ รักษาตามขั้นตอน ไม่นิ่งดูดาย

วันนี้ (5 ก.ค.67)  จากกรณี น.ส.ธนินท์รัฐ อายุ 52 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมครอบครัว นำภาพถ่ายของผู้ตายที่เป็นพี่สาวคือ นางฐิตารีย์ อายุ 55 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ หลังพาไปรักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยอาการปวดขา และแพทย์รักษาและให้ยาฆ่าเชื้อจนหาย ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. ได้ย้ายไปให้คีโม เนื่องจากพี่สาวป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว และมีอาการข้างเคียงคล้ายเป็นไข้ ต้องนอนต่อเนื่องที่โรงพยาบาล และมีญาติเฝ้า และต้องให้ยาลดไข้ และช่วยเช็ดตัว

กระทั่งในช่วง 15-16 มิ.ย. ซึ่งตรงกับวันหยุด และช่วงเทศกาลฮารีรายอพอดี พี่สาวอาการหนักในขั้นวิกฤต มีไข้สูง ตาเหลืองคล้ายดีซ่าน ชักเกร็ง และอาเจียน อาการทรุดหนัก มีการให้ยาฆ่าเชื้อ และได้มีการขออนุญาตเจาะคอ และพาเข้าห้องไอซียู  ในเวลาต่อมา และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.

โดยทางญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิตและมีการตั้งข้อสงสัยและติดใจใน 2 ประเด็น คือ เรื่องการรักษาของหมอโรคเลือดที่ไม่ได้บอกอาการโรคไว้ให้ญาติผู้ป่วยทราบ และในวันเกิดเหตุที่มีอากรหนักช่วงวันที่ 15-16 มิ.ย. ซึ่งตรงกับช่วงวัดหยุดฮารีรายอ พยาบาลที่ประจำอยู่เวรในขณะนั้นแสดงอาการเพิกเฉยต่อการขอร้องของญาติให้มาดูอาการผู้ป่วยหลังเกิดเหตุ รวมทั้งทางญาติติดใจถึงขั้นตอนการรักษาพยาบาล และการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีการทิ้งช่วงเป็นระยะเวลากว่า 4 ชั่วโมง จนทำให้ผู้ป่วยถึงขั้นวิกฤตและเสียชีวิต

ทั้งนี้ทางญาติได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปฟ้องร้องทางแพ่งกับทางโรงพยาบาลหาดใหญ่ ในการเยียวยาช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต ในฐานประมาทเลินเล่อ ตามมาตรา 420 เป็นเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเร็วกว่าที่ควรจะเป็น และต้องการให้โรงพยาบาลพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบุคลากรใส่ใจต่อผู้ป่วย ไม่ใช่ให้ผู้ป่วยต้องรอคอยความตาย เพื่อจะให้กรณีศึกษาตัวอย่างให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม นั้น

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ก.ค. 67 ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นพ.ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ และสอบถามเกี่ยวเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทราบว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทางรองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้แจงกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้วครั้งหนึ่ง แต่อาจจะยังไม่เข้าใจกัน

นพ.ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ในส่วนที่ทางญาติผู้เสียชีวิตยังคาใจอยู่ 2 ประเด็น นั้น ขอชี้แจงว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวคือ มะเร็งในเม็ดเลือดขาว และครั้งนี้ได้เข้ารับการรักษาเป็นครั้งที่ 9 แล้ว ซึ่งอาการก็ทรุดหนักลงเรื่อยๆ  โดยเรื่องการรักษาของหมอโรคเลือดที่ไม่ใด้พยากรณ์อาการโรคไว้ให้ญาติผู้ป่วยทราบนั้น ยืนยันว่า ทางแพทย์ได้มีการจัดทำแผนในการรักษาตัวผู้ป่วยทุกรายอยู่แล้ว ซึ่งต้องรักษากันไปตามอาการ โดยผู้เสียชีวิตไม่ได้ตายด้วยอาการมีไข้สูงและชักเกร็งตามที่ทางญาติอาจจะเข้าใจ แต่เป็นเพราะผู้ตายเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มีเลือดออกในสมอง และมีอาการติดเชื้อ และอาการข้างเคียงอย่างอื่นจึงตามมา เนื่องจากร่างกายอ่อนแอ เม็ดเลือดขาวไม่ปกติแบบคนทั่วไป แพทย์จึงต้องให้ยาฆ่าเชื้อ และรักษาไปตามอาการที่ปรากฏ

รวมทั้งแพทย์ไม่สามารถผ่าตัดรักษาอาการเลือดออกในสมองได้ เพราะผู้ป่วยมีอาการหนักมากเกินไป ซึ่งอันตรายมาก จึงต้องรักษาทางยา รวมทั้งแพทย์เองก็ไม่สามารถบอกในรายละเอียดทุกอย่างได้หมดในเวลาเดียวกัน เนื่องจากบางอย่างก็อาจที่จะส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ป่วยหรือญาติโดยตรง และไม่เป็นผลดีต่อการรักษา อีกทั้งในตอนนี้ผลแล็บก็ออกมาแล้วว่า เสียชีวิตด้วยอาการเลือดออกในสมอง โดยทุกอย่างมีเอกสารหลักฐานชัดเจน

ส่วนอีกเรื่องคือ ขั้นตอนการรักษาพยาบาล และการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีการทิ้งช่วงเป็นระยะเวลากว่า 4 ชั่วโมง จนทำให้ผู้ป่วยถึงขั้นวิกฤตและเสียชีวิตนั้น ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าพยาบาลได้ทำหน้าที่ตามปกติ มีการช่วยเหลือ และให้ยาผู้ป่วยตามขั้นตอนที่ต้องทำแล้ว ไม่ได้ทิ้งช่วงการรักษานาน 4 ชั่วโมง และมีการบันทึกอาการและการให้ยารักษาผู้ป่วยตามขั้นตอน แต่อาจจะบุคลิกของพยาบาลที่คนดังกล่าวอาจจะดูเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา และอยู่ในช่วงที่ผู้ป่วยมีอาการหนัก จึงอาจจะทำให้ทางญาติเข้าใจว่า พยาบาลคนนั้นอาจจะดูเหมือนกับไม่ค่อยกระตือรือร้น ซึ่งเรื่องนี้มีการแจ้งไปยังฝ่ายพยาบาลแล้วว่า ถ้ามีข้อบกพร่องตรงไหน ก็จะแก้ไขกันไป ซึ่งพยาบาล 1 คน ต้องรับบทหนักดูแลผู้ป่วยไม่น้อยกว่า 5-6 คน และแม้จะเป็นช่วงวันหยุด ทางโรงพยาบาลก็จะมีแพทย์ในแต่ละระดับคอยประจำการอยู่แล้ว เพราะต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามแนวทางที่กำหนดไว้ ละเลยไม่ได้

นพ.ไชยสิทธิ์ เทพชาตรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสีบชีวิตอีกครั้งหนึ่ง โดยยืนยันว่า ทางแพทย์และพยาบาลได้ทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และรักษาไปตามอาการ และขั้นตอนการรักษาของแพทย์โดยไม่บกพร่อง ซึ่งหากทางญาติได้แจ้งความเพื่อเอาผิดกับทางโรงพยาล ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ซึ่งก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป และในส่วนของโรงพยาบาลเองได้มีการจัดเตรียมเอกสาร เพื่อรอให้ทางญาติเข้ามาเซ็น เพื่อขอรับการช่วยเหลือกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคณะกรรมการที่รับเรื่องจะได้นำเข้าหารือ และตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนเข้าสู่กระบวนการเยียวยาตามขั้นตอนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง