เช้านี้ที่หมอชิต - ไรเดอร์กลัวความผิด ขี่รถจักรยานยนต์หนีตำรวจไกล 5 กิโลเมตร เพราะกลัวถูกจับไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่พกใบขับขี่ พอตำรวจตามถึงตัวก็ถูกกระทืบ ก่อนปล่อยตัวไป งานนี้เจ้าตัวมองว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ เลยไปร้องขอความเป็นธรรม
นายสุเมธ อายุ 29 ปี ไรเดอร์หนุ่ม เข้าร้องทุกข์ หลังถูกตำรวจสายตรวจ สน.ฉลองกรุง 2 นาย รุมทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดเวลา 02.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา
นายสุเมธ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถย้อนศรไปเก็บโทรศัพท์ที่ตกอยู่บนถนนฉลองกรุง ทันใดนั้นพบตำรวจสายตรวจ 2 นาย เรียกให้จอดรถ ตอนนั้นรู้ตัวดีว่าขี่รถย้อนศร, ไม่สวมหมวกกันน็อก, ไม่มีใบขับขี่ ไม่อยากถูกจับกุม จึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีการจับกุมไปไกลถึง 5 กิโลเมตร จนสุดท้ายจนมุมเพราะรถล้ม ถูกตำรวจเตะไปที่ใบหน้า จนปากแตกเย็บ 4 เข็ม เมื่อตำรวจตรวจไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงปล่อยตัว
แต่ตนมองว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ จึงไปแจ้งความกับตำรวจ สน.จรเข้น้อย จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ประสานตำรวจคู่กรณีมาสอบถาม แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นตัวเองที่ถูกดำเนินคดี ข้อหา ขับรถประมาทหวาดเสียว, ไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่พกใบขับขี่ ปรับไป 1,200 บาท ส่วนตำรวจคู่กรณีกลับไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ จึงมองว่าไม่เป็นธรรม
คดีนี้จึงต้องแยกเป็น 2 ส่วน โดยคดีของผู้เสียหายถูกปรับดำเนินคดีแล้ว แต่ตำรวจที่ทำร้ายร่างกายก็ต้องดำเนินคดีด้วย
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปทางตำรวจที่เกี่ยวข้อง ปรากฏว่าให้ข้อมูลไม่ตรงกับผู้เสียหาย อ้างว่า วันเกิดเหตุ สายตรวจไปพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ไม่สวมหมวกกันน็อก เห็นตำรวจแล้วขี่ย้อนศรหลบหนี สงสัยว่ากระทำผิดหรือมีสิ่งของผิดกฎหมาย จึงไล่ตามไป แต่ขณะควบคุมตัว ปรากฏว่าผู้เสียหายต่อสู้ขัดขืน จึงใช้ยุทธวิธีจับกดลงคว่ำหน้ากับพื้น จึงอาจมีบาดแผลใบหน้า และปลายคางได้ เบื้องต้น ผู้บังคับบัญชาได้เรียกตรวจสอบกล้อง Body Cam เพื่อดูว่าการจับกุมเป็นไปตามยุทธวิธี หรือทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ก่อนจะให้คำตอบกับสังคมต่อไป