สนามข่าว 7 สี - คดีลอตเตอรี่อลเวง 30 ล้านบาท ระหว่าง ลุงจรูญ และครูปรีชา ที่ต่อสู้กันมายาวเกือบ 7 ปี โดยเมื่อวาน (9 ก.ค.) ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดสืบพยานโจทก์ในคดีเบิกความเท็จ ที่ฝ่ายลุงจรูญ ยื่นฟ้องครูปรีชาและอีกสองเจ๊ ปรากฏว่า จำเลยทั้ง 3 คน รับสารภาพต่อศาลแล้ว ปิดตำนานวลีเด็ด "ความจริงก็คือความจริง"
ย้อนไปช่วง 09.00 น. ของเมื่อวาน (9 ก.ค.) ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดสืบพยานโจทก์คดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ ลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา, นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น, และนางพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช ในความผิดฐานร่วมกันเบิกความเท็จต่อศาล
โดยเมื่อถึงเวลานัด ปรากฏว่า ทางฝั่งโจทก์ที่เป็นฝ่ายยื่นฟ้อง มีเพียงนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความของลุงจรูญ ที่เดินทางมาศาลพร้อมทีมทนายความ ส่วนลุงจรูญและภรรยาไม่ได้มาด้วย เนื่องจากต้องไปเยี่ยมพ่อที่ป่วย
แต่สิ่งที่แปลกกว่าการขึ้นศาลทุกครั้ง ก็คือ ฝั่งของจำเลย เจ๊บ้าบิ่น กลับเดินเข้าประตูศาลมาพร้อมทนายตั้ม ก่อนแยกย้าย
ทนายตั้ม กล่าวติดตลกกับทีมข่าวว่า ได้ยินเสียงเจ๊บ้าบิ่นบ่นพึมพำมาตลอดทางว่า ขอให้กรรมตามทัน ขอให้กรรมตามทัน คาดว่าน่าจะแค้นตนเองมาก ที่ทำให้เจ๊บ้าบิ่นต้องกลายเป็นจำเลยในคดีเบิกความเท็จ
จากนั้น ทนายตั้ม ได้เผชิญหน้ากับครูปรีชา ขณะจะเดินเข้าห้องพิจารณาคดี โดยทั้งคู่ต่างส่งยิ้มให้กัน และพูดคุยหยอกล้อเล็กน้อย
ต่อมา เวลา 10.28 น. ทนายตั้ม โพสต์ว่า จำเลยทั้ง 3 คน คือ ครูปรีชา เจ๊พัช และเจ๊บ้าบิ่น ได้รับสารภาพเรียบร้อยแล้ว โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 28 ตุลาคม นี้
ถึงครูปรีชาจะรับสารภาพแล้ว แต่ยืนยันเหมือนเดิมว่า ลอตเตอรี่เป็นของตนเอง ทั้งที่ในคดีหลักศาลตัดสินไปแล้วว่าลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท เป็นของลุงจรูญ
