“กปน.” แจงยิบตรวจสอบคุณภาพตามค่าแนะนำขององค์การอนามัยโลก ไม่พบสารปนเปื้อนอันตราย
จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อความเกี่ยวกับพบสารปนเปื้อนอันตรายในน้ำประปานั้น ล่าสุด (13ก.ค.67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประปานครหลวง (กปน.) ยืนยัน เฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาเส้นท่อจ่ายน้ำตามบ้านผู้ใช้น้ำครอบคลุมทุกพื้นที่บริการ และ มีแผนงานและเป้าหมายการตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาตามค่าแนะนำขององค์การอนามัยโลก และ มีข้อชี้แจงตามรายการที่สอบถาม ดังนี้
• สาร PFOS และ PFOA ที่ใช้ในการเคลือบผิวผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน โฟม สารเคลือบกระทะ เสื้อผ้าที่กันเปื้อน แชมพู และโฟมดับเพลิง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในประเทศไทย เลิกใช้สารกลุ่มนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 จากสถิติของกรมโรงงานมีการนำเข้าสารกลุ่มนี้น้อยกว่า 300 กิโลกรัมต่อปี ดังนั้น สาร PFOS จึงมีโอกาสการปนเปื้อนในแหล่งน้ำต่ำมาก
• ยาปฏิชีวนะ ที่ปนเปื้อนในธรรมชาติมีปริมาณน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ส่งผลโดยตรงต่อร่างกายมนุษย์
• ไมโครพลาสติก กปน. ได้มีการทำวิจัยร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อศึกษาขนาด ปริมาณ และชนิดของไมโครพลาสติก ตลอดกระบวนการผลิตน้ำประปา โดยน้ำประปาของการประปานครหลวงนั้น พบว่า กระบวนการกรองในกระบวนการผลิตน้ำประปาของ กปน. มีชั้นของแอนทราไซต์และทรายกรองที่สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ ดังนั้น โอกาสที่น้ำประปาจะมีการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกจึงมีน้อยมาก
• โปรโตซัว ที่ก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร ทำเกิดโรคอุจจาระร่วงอย่างเฉียบพลัน พบได้ในแหล่งน้ำ กปน. มีการเฝ้าระวังโปรโตซัวก่อโรคชนิดนี้ โดยการส่งวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำดิบ และ น้ำประปาที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลการวิเคราะห์ที่ผ่านมาไม่พบการปนเปื้อนโปรโตซัวดังกล่าว