ครูไม่รู้เด็ก ป.1 มีโรคประจำตัว ผลชันสูตรปอดติดเชื้อ

ครูไม่รู้เด็ก ป.1 มีโรคประจำตัว ผลชันสูตรปอดติดเชื้อ

View icon 2.9K
วันที่ 19 ก.ค. 2567 | 18.18 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คืบหน้ากรณีครูทำโทษ ป.1 วิ่ง 5 รอบ จนเด็กหายใจไม่ออก เสียชีวิต ด้านครู บอกไม่ทราบมาก่อนว่าเด็กมีโรคประจำตัว รู้แค่ป่วยบ่อย ส่วนผลชันสูตร แจ้ง ปอดติดเชื้อ

(19 ก.ค.67) จากกรณี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป. 1  อายุ 7 ขวบ นักเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ถูกครูทำโทษให้วิ่งรอบสนาม 5 รอบ เพราะติดเครื่องหมายชุดลูกเสือมาโรงเรียนไม่ครบ  แล้วเด็กเกิดอาการหายใจไม่ออก จึงประสานให้ผู้ปกครองมารับไปรักษาตัว แต่ปรากฎว่า อาการหนักและเสียชีวิตในเวลาต่อมา  

คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ครูทำโทษ ป.1 วิ่ง 5 รอบสนามหายใจไม่ออกดับ

ล่าสุดคณะครูของโรงเรียนได้นำพวงหรีด เข้าแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนักเรียนชั้น ป.1 และได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า  ในชั่วโมงลูกเสือ ให้นักเรียนที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยออกมามายืนหน้าแถวแล้วให้วิ่งรอบบริเวณโรงเรียน 3 รอบ  นักเรียนที่เสียชีวิจ บอกว่าไม่ไหว ก็ได้ให้มานั่งพัก แล้วครูก็สอนเด็กคนอื่นตามปกติ ต่อมาเด็กอาเจียน และได้ให้ครูโทรหาพ่อ ครูก็โทรให้ ซึ่งพ่อมารับเด็กไปในเวลาไม่เกิน 6 นาที

สำหรับโรคประจำตัวของเด็กนักเรียนชั้นป.1 ที่เสียชีวิต ครูไม่ทราบว่าเด็กมีโรคประจำตัว รู้แค่ว่าไม่สบายบ่อย ก่อนหน้านี้เด็กก้หยุดเรียนไปหลายวัน  วันไหนที่ไม่สบาย พ่อก็โทรมาลา

ด้านผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ทางโรงเรียนจะดูแลอย่างถึงที่สุด ได้ให้ครูเดินทางไปที่วัด เพื่อรับฟังทางผู้ปกครอง และจะติดตามดูข้อเท็จจริงกับครูอีกครั้ง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณศาลาผงบุดดา  วัดโคกอุดม   ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี พบว่าญาติอยู่ในอาการโศกเศร้า ทางย่าเด็ก ได้ขอร้องไม่ให้พ่อ แม่เด็กพูด โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้เป็นเวรกรรมติดตัวน้องไป  ส่วนทางโรงเรียนจะรับผิดชอบหรือไม่ก็ไม่ว่า 

ส่วนผลการชันสูตรของแพทย์ที่โรงพยาบาล  ผู้เป็นแม่บอกว่า  ทางแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิต  เนื่องจากปอดติดเชื้อ

ส่วนเรื่องคดีความ  ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พ.ต.อ.ศิวัชณัฐ์   คุ้มทรัพย์  ผกก.กบินทร์บุรี  กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทางสภ.ยังไม่มีใครมาแจ้งความแต่อย่างใด  ทำให้ยังไม่สามารถดำเนิการได้อย่างไร  เพื่อความแน่ชัด จะให้พนักงานสอบสวนได้พบแพทย์โรงพยาบาลเพื่อขอข้อมูลก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง