สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ ทั่วโลกประสบปัญหา "จอฟ้า" หลังบริษัท "คลาวด์สไตรก์" (Crowdstrike) ผู้ให้บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อัปเดตระบบซอฟต์แวร์ที่ส่งผลกระทบให้ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์ของบริษัทไมโครซอฟทั่วโลก ไม่สามารถเชื่อมต่อได้
ล่าสุด ระบบต่าง ๆ ได้กลับมาใช้งานได้ตามปกติอีกครั้ง โดยบริษัท "คลาวด์สไตรก์" ยอมรับว่า ซอฟต์แวร์ "ฟอลคอน เซนเซอร์" (Falcon Sensor) เวอร์ชันล่าสุด ที่ทำขึ้นเพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากการถูกแฮ็กข้อมูล เกิดปัญหารหัสที่ในไฟล์อัพเดตผิดพลาดจนทำให้เกิดการขัดข้องนี้ขึ้น โดยคลาวด์สไตรก์กล่าวว่า จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก พร้อมยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ออกมาตอบโต้ว่า ระบบการอัปเดตของคลาวด์สไตรก์ ไม่ได้รับการตรวจสอบที่เพียงพอก่อนนำมาใช้งาน
อย่างไรก็ตาม แม้ระบบจะเริ่มกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่ผลพวงจากปัญหาระบบล่ม ยังส่งผลกระทบต่อเนื่องในหลายอุตสาหกรรม ที่อาจต้องใช้เวลาเพื่อจัดการให้ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ โดยในวันนี้ หลายสายการบินประกาศว่าสามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง แต่ยังมีเที่ยวบินอีกไม่น้อย ที่ถูกยกเลิก หรือล่าช้า
ขณะที่ ยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมการบินอย่าง "สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์" เปิดเผยว่า ทั้งสนามบินและสายการบินของประเทศ ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย แต่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมอัปเดตข้อมูลข่าวสารแก่ผู้โดยสารต่อไป ทั้งนี้ หลังเกิดปัญหาระบบล่มมีรายงานเที่ยวบินทั่วโลกมากกว่า 5,000 เที่ยวถูกยกเลิก โดยเฉพาะเที่ยวบินจากสหรัฐฯ ที่ถูกยกเลิกไปไม่ต่ำกว่า 3,000 เที่ยวภายในวันเดียว
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่รถยนต์ก็เดือดร้อนไม่แพ้กัน โดยที่เมือง "ซิวแดด ฮัวเรซ" ชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ มีประชาชนจำนวนมาก จอดรถต่อคิวยาวเหยียด เพื่อรอข้ามชายแดนไปสหรัฐฯ หลังระบบตรวจตราชายแดนล่มเพราะปัญหาจอฟ้า โดยปกติจะใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น ในการผ่านแดน แต่หลังระบบล่ม ต้องรอนานกว่า 2 ชั่วโมง ถึงจะได้ข้ามชายแดน
ขณะเดียวกัน หน่วยข่าวกรองไซเบอร์ของออสเตรเลีย เตือนผู้ใช้งาน หลังพบเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย ฉวยโอกาสอ้างว่า สามารถช่วยฟื้นฟูระบบจากความขัดข้องทางดิจิทัลทั่วโลกได้ ทางการจึงขอให้ประชาชนจับตากลโกงเหล่านี้ด้วย
