อินโดนีเซีย เผยจับกุมชายชาวซิดนีย์ และหญิงชาวอินโดนีเซีน ในข้อหาค้ามนุษย์ข้ามชาติ หลังหลอกเด็กสาวชาวอินโดนีเซีย ไปค้าบริการทางเพศในนครซิดนีย์ ของออสเตรเลีย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินโดยนีเซีย พร้อมตัวแทนตำรวจของสหพันธรัฐของออสเตรเลีย เปิดแถลงข่าวในกรุงจาการ์ตา ในวันนี้ว่า ได้จับกุมชายชาวออสเตรเลีย อายุ 43 ปี ในนครซิดนีย์ พร้อมตั้งข้อหาค้ามนุษย์เด็ก หลังหลอกหญิงสาวชาวอินโดนีเซียอายุ 17 ปี เข้าไปขายบริการทางเพศ ที่แหล่งค้าประเวณีในนครซิดนีย์ ของออสเตรเลีย ซึ่งโทษสูงสุดคือจำคุก 25 ปี โดยในวันนี้ ชายคนดังกล่าว ถูกนำตัวไปขึ้นศาลที่นครซิดนีย์ แล้ว
นอกจากนั้น ยังจับกุมหญิงชาวอินโดนีเซียอีก 1 คนหนึ่ง ในกรุงจาการ์ตา ของอินโดนีเซีย ในข้อหาเป็นผู้คัดเลือกเหยื่อเพื่อส่งตัวไปยังออสเตรเลีย หลังตรวจค้นบ้าน และพบหลักฐานหนังสือเดินทางของผู้หญิงคนอื่นๆ เพื่อเดินทางไปออสเตรเลีย ซึ่งจะถูกนำตัวขึ้นศาลในกรุงจาการ์ต้า ด้วย
และจากการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังพบหญิงชาวซิดนีย์วัย 35 ปี อีกคนหนึ่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ใช้กลโกงในการรับนักเรียนเข้าเรียนในสถานศึกษา เพื่อยืดเวลาการพำนักของเหยื่อในออสเตรเลีย ให้ทำงานบริการทางเพศต่อไป โดยขณะนี้ หญิงคนดังกล่าว ถูกควบคุมตัวที่ศูนย์กักกันตรวจคนเข้าเมืองวิลลาวูด ด้วย
ทั้งนี้ การสืบสวนเกี่ยวกับข้อหาการค้ามนุษย์ เริ่มขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2565 หลังตำรวจได้รับข้อมูลว่า มีชาวต่างชาติในออสเตรเลีย ถูกบังคับให้ทำงานบริการทางเพศ และเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ตำรวจออสเตรเลียพบว่า ผู้หญิง 9 คน ในแหล่งค้าประเวณี 3 แห่งทั่วนครซิดนีย์ ที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขวีซ่าการให้บริการทางเพศ โดยองค์กรค้ามนุษย์นี้ เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 และรับสมัครชาวอินโดนีเซียราว 50 คน โดยผู้สรรหาคน จะได้รับเงินต่อการหาคนครั้งละ 500 ล้านรูเปียห์ หรือ กว่า 1,100,000 บาท